เชสเตอร์ ฉลองครบรอบ 34 ปี ชูจุดแข็งแบรนด์ ปรับโฉมร้านให้โมเดิร์นขึ้น พร้อมจับมือ iberry พัฒนาเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่”
นางสาวลลนา บุญงามศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชสเตอร์ ฟู้ด จำกัด กล่าวว่า เชสเตอร์เป็นร้านอาหารจานด่วนที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ตลอดระยะเวลา 34 ปี ได้พัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมตอบรับกับ New Normal ของผู้บริโภค
สำหรับในปี 2565 นี้ บริษัทฯ คาดยอดขายจะเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นการเติบโตแบบยูเชฟ ด้วยจุดแข็งของแบรนด์ คือ ความอร่อย สดใหม่ รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เมนูซิกเนเจอร์ อาทิ ข้าวอบไก่ย่างเชสเตอร์ ข้าวไก่ทอดซอสน้ำปลา และข้าวไก่เผ็ดเชสเตอร์ ยังคงติดอันดับยอดนิยมจากรุ่นสู่รุ่น
พร้อมกันนี้ จะเดินหน้าพัฒนาเมนูให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยดึงเทรนด์ต่าง ๆ มารังสรรค์เมนูใหม่ ๆ อาทิ Snow Onion หรือ ไก่กรอบซอสทรัฟเฟิล เป็นต้น
ปัจจุบันร้านเชสเตอร์มีมากกว่า 200 สาขา ด้วยรูปแบบดีไซน์ร้านที่ทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น และยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ด้วยการเพิ่มพื้นที่จุดบริการเดลิเวอรี่ให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงยังมีแผนที่จะขยายไปยังโมเดลต่างๆ เช่น Grab&Go เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมือง
ในปีที่ 34 นี้ เชสเตอร์ต้องการสร้างความตื่นเต้น และเพิ่มโอกาสในการรับประทานอาหารให้มีความหลากหลาย ตามเทรนด์ใหม่ๆ รวมถึงตอบแทนลูกค้าที่ไว้วางใจแบรนด์อย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด ด้วยการเปิดตัว ไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่ เมนูสุดพิเศษ
ทั้งนี้ เมนูดังกล่าว เป็นการจับมือร่วมกับ ไอเบอร์รี่ (iberry) พัฒนาสูตรจากเมนูซิกเนเจอร์ที่ครองใจลูกค้า อย่าง ไก่ย่างสูตรเผ็ดและข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา ได้เป็นไอศกรีมรสชาติพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งมีจำนวนจำกัดเฉพาะโอกาสพิเศษ ฉลองครบรอบ 34 ปีเชสเตอร์เท่านั้น
นอกจากนี้ เมนู ‘ไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่’ จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 8 ตุลาคม 2565 ในราคาถ้วยละ 75 บาท เฉพาะนั่งรับประทานที่ร้านเชสเตอร์เท่านั้น! พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ จัดคู่เมนูข้าวซิกเนเจอร์ของเชสเตอร์ อย่าง ข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา (เปลี่ยนเป็นข้าวไก่เผ็ดเชสเตอร์ หรือ ข้าวอบไก่ย่างได้) เสิร์ฟพร้อมเป๊ปซี่ 16 ออนซ์ 1 แก้ว และไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่ 1 ถ้วย เพียงชุดละ 159 บาท จากปกติชุดละ 214 บาท
ด้านแผนขยายสาขาในปีนี้ ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 12 สาขา โดยกลางเดือนตุลาคมนี้ จะเปิดที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอร์แลนด์ ในรูปแบบ Grab&Go ขณะที่ในปี 2566 จะขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา
นางสาวลลนา กล่าวว่า มีปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลูกค้ากลับมาใช้บริการส่วนของการสั่งซื้อหน้าร้านและ Delivery ถึงปัจจุบันมีสัดส่วนที่ 50:50 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งสัดส่วนการสั่งซื้อออนไลน์มีเพียง 20%
เชสเตอร์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเมนูคุณภาพที่หลากหลาย รสชาติอร่อย รวมถึงการบริการที่รวดเร็ว เพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์เมนูอาหารแนวใหม่ รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดที่ทันสมัย เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และลูกค้า
ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่ Facebook Page เชสเตอร์ : https://www.facebook.com/chesterthai/ และ www.chesters.co.th หรือ โทร. 1145
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช่วยต่อเนื่อง!! ‘ซีพีเอฟ ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม’ ส่งความห่วงใยชาวอุบลฯ-นครราชสีมา-สระบุรี
- น้ำใจซีพีเอฟ หลั่งไหล ช่วยไทยสู้ภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง
- CPF ช่วยเหลือต่อเนื่อง ‘ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม’ ชาวระยอง-มีนบุรี คลายกังวล
