Business

กวาดล้าง ‘สถานพยาบาลเอกชน’ ตั้งตัวเป็นเอเจนซี่ นำเข้าแพทย์ต่างชาติ บริการทำสวย ผิดกฏหมาย

สธ. กวาดล้าง แพทย์ และ สถานพยาบาลเอกชน ตั้งตัวเป็นเอเจนซี่ นำเข้าแพทย์ต่างชาติ มาให้บริการปรึกษาความงาม แบบผิดกฏหมาย มีโทษทั้งหมอไทยและหมอนอก

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา กรม สบส.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการศัลยกรรม หรือเสริมความงามอยู่เป็นระยะ ซึ่งกรม สบส.ก็มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น โดยมีการจัดทีมพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้รับบริการและสถานพยาบาลเสมอมา

สถานพยาบาลเอกชน

นำเข้าแพทย์ต่างชาติแบบผิดกฏหมาย

โดยหนึ่งในประเด็นเรื่องร้องเรียนที่ กรม สบส.ตรวจสอบ พบว่ามีความน่าสนใจ และต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ คือ การเชิญชวนประชาชน ให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ต่างชาติ หรือเดินทางไปรับบริการศัลยกรรมเสริมความงามกับสถานพยาบาลต่างประเทศ โดยมีแพทย์หรือสถานพยาบาลในไทยเกี่ยวข้องในลักษณะ มีเอเจนซี่ (Agency) ให้การสนับสนุนทั้งการจัดกิจกรรมให้คำปรึกษา จัดโปรโมชั่นลดราคา เพื่อดึงดูดให้ประชาชนตัดสินใจเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลต่างประเทศ หรือสถานพยาบาลของตน

ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อมาตรฐานวิชาชีพ และมาตรฐานสถานพยาบาลไทยแล้ว ยังสร้างผลกระทบให้กับผู้รับบริการบางราย อีกทั้งยัง เป็นการกระทำผิดกฎหมายสถานพยาบาล

สถานพยาบาลเอกชน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข

ร่วมกับภาคีเครือข่าย ป้องปราม และกวาดล้างการกระทำผิด เตือน! โทษหนัก

ดังนั้น เพื่อป้องปราม และกวาดล้างการกระทำผิดในลักษณะข้างต้น กรม สบส.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ แพทยสภา และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ  ร่วมเฝ้าระวัง ตรวจสอบกิจกรรม หรือสื่อโฆษณาที่มีการเผยแพร่ในทุกพื้นที่ช่องทาง ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนและส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการตรวจสอบ และดูแลคุ้มครองผู้บริโภค

ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือให้คำปรึกษา ระหว่างแพทย์ต่างชาติและแพทย์ไทยนั้น มีมาอย่างยาวนานแล้ว แต่การกระทำดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย และเป็นการกระทำต่อแพทย์ด้วยกัน ไม่มีผู้ป่วยมาเกี่ยวข้อง จึงไม่ขัดต่อหลักกฎหมาย

หากเป็นการเปิดคอร์สให้คำปรึกษา วินิจฉัยโรคแก่ผู้ป่วย หรือประชาชนโดยแพทย์ต่างชาติ แม้แพทย์รายดังกล่าวจะมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมในต่างประเทศ แต่หากไม่มีการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการแพทยสภา อนุมัติให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในไทย ก็จะถือว่ามีความผิด ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรรม พ.ศ. 2525 ฐานเป็นหมอเถื่อน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สถานพยาบาลเอกชน

และหากการให้คำปรึกษา จัดขึ้นในสถานที่ที่มิใช่สถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานเปิดคลินิกเถื่อน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งแพทย์หรือสถานพยาบาล ที่มีส่วนรู้เห็นหรือได้รับผลประโยชน์จากการจัดกิจกรรม ก็จะถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย  แต่หากการให้คำปรึกษาโดยแพทย์ต่างชาตินั้น จัดขึ้นในสถานพยาบาล ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะมีความผิด ในฐานปล่อยปละละเลย ให้บุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพ ทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ จะมีการขยายผลตรวจสอบไปยังสื่อโฆษณาของสถานพยาบาล ว่ามีการขออนุมัติโฆษณา หรือมีเนื้อหาที่เป็นเท็จโอ้อวดเกินความจริงหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง ตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะมีการเอาผิดต่อไป

หากประชาชนพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำผิดของแพทย์หรือสถานพยาบาลเอกชน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo