Business

รู้ยัง!! 1พ.ค.นี้ เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท -จ่อกู้เพิ่มก้อนแรก 2 หมื่นล้าน

ไม่ไหวแล้ว!! ประกาศเลิกอุ้มดีเซลลิตรละ 30 บาท เริ่ม 1 พ.ค.นี้  อาจใช้วิธีปรับขึ้น แบบขั้นบันได เหตุกองทุนน้ำมันฯ เกลี้ยงเงิน เตรียมกู้ก้อนแรก 2 หมื่นล้าน รับมือ 

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่าปลายเดือนเมษายน 2565 กองทุนฯ จะพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเกินกว่า 30 บาทต่อลิตร จะมีผลวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 แต่จะเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อาทิ ปัจจุบัน อุดหนุนประมาณลิตรละ 8 บาท กองทุนฯ อาจอุดหนุนลิตรละ 4 บาท หรือเท่าไรคงต้องพิจารณาอีกที โดยวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 จะครบกำหนดมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาท

ขณะนี้กองทุนฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกใกล้ชิด จากการศึกษาทิศทางราคาน้ำมัน เป็นไปได้ทั้งขึ้นและลง หากราคาตลาดโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้ที่กองทุนฯ จะลดการอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล  อาจใช้วิธีปรับขึ้นแบบขั้นบันได เช่น ปัจจุบันราคาขายปลีกดีเซลจริงอยู่ที่ 38 บาทต่อลิตร หากรัฐอุดหนุนราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน ราคาดีเซลที่จะปรับขึ้นควรอยู่ที่ 34 บาทต่อลิตร รัฐอาจทยอยปรับขึ้น ไม่ปรับขึ้นครั้งเดียว รวมทั้งศึกษาการกำหนดระดับ การตรึงราคาว่าควรจะอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตรต่อไป หรือควรจะปรับขึ้นไปที่ระดับ 32, 33 หรือ 35 บาทต่อลิตรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันตลาดโลก

เลิกอุ้มดีเซล
Horizontal shot of some fuel pumps at a gas station.

ส่วนการกู้เงินอุดหนุนราคาน้ำมัน  ก่อนหน้านี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสศช. ได้ยืนยันกับสถาบันการเงิน ทำให้เกิดความมั่นใจกับสถาบันการเงินเรื่องการปล่อยกู้เงินก้อนแรก 20,000 ล้านบาท มากยิ่งขึ้น โดยวันที่ 30 เมษายน 2565 จะมีสถาบันการเงินยื่นข้อเสนอปล่อยกู้

ทั้งนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้การสนับสนุนกองทุนฯ เพื่อดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพของราคาพลังงาน โดยพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนฯ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถาบันการเงินที่จะให้สินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุนฯ เป็นไป ตามพ.ร.บ.กองทุนมาตรา 6 (2) กรณีที่เงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน

ตอนนี้กรมธุรกิจพลังงาน อยู่ระหว่างทำตัวเลข ให้กับกระทรวงการคลัง ว่ากองทุนฯ ควรจะขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นตัวเลขเท่าไหร่ แต่ขณะนี้กองทุนฯ ยังมีเงินสดอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท แม้สถานะกองทุนฯ จะติดลบกว่า 42,000 ล้านบาท ยืนยันว่ายังมีเวลาเพราะดูจากสถานการณ์ ต้องเติมเงินเข้าบัญชีกองทุนฯ ก้อนแรก 20,000 ล้านบาท ในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนก้อนที่ 2 กู้อีก 10,000 ล้านบาท และก้อนที่ 3 อีก 10,000 ล้านบาท รวม 4 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ยืนยันว่าจะกู้ก้อนแรกก่อน

เลิกอุ้มดีเซล

หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลงมาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อยากทำความเข้าใจว่า ราคาน้ำมันดีเซลในช่วงแรกอาจจะไม่ลดลงมาจาก 30 บาทต่อลิตร หรือให้ลงมาที่ลิตรละ 25 บาท ทันทีคงเป็นไปยาก เพราะจะต้องนำเงินมาเติมเข้ากองทุนฯ ไว้ใช้จ่ายในยามวิกฤติ ปัจจุบันมีเงินเข้าระบบเดือนละ 2,000 ล้านบาท แต่ต้องจ่ายเดือนละ 20,000 ล้านบาท จึงต้องกู้เงินเข้ามาเสริมเพิ่ม

ก่อนหน้านี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีมาตรการดูแลราคาพลังงาน อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร จนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 จากนั้นเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2565 รัฐจะช่วยส่วนที่ราคาเพิ่มเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง หรือ 50%

เลิกอุ้มดีเซล

นายธนกร ยังเปรียบเทียบกับราคาพลังงานในหลายประเทศทั่วโลก ราคาพลังงานในประเทศไทยยังไม่แพงที่สุด เช่น ราคาน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 7 เมษายน 2565 ประเทศไทยยังอยู่ที่ 29.49 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลของประเทศต่าง ๆ เช่น ฮ่องกง อยู่ที่ 84.97 บาท/ลิตร นอร์เวย์ อยู่ที่ 80.57 บาท/ลิตร อังกฤษอยู่ที่ 77.80 บาท/ลิตร สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 44.92 บาท/ลิตร อินเดีย 44.23 บาท/ลิตร ญี่ปุ่นอยู่ที่ 40.41 บาท/ลิตร ส่วนในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ อยู่ที่ 64.90 บาท/ลิตร ลาว อยู่ที่ 48.60 บาท/ลิตร ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 47.36 บาท/ลิตร กัมพูชา อยู่ที่ 43.78 บาท/ลิตร เมียนมา อยู่ที่ 41.83 บาท/ลิตร อินโดนีเซีย อยู่ที่ 40.86 บาท/ลิตร ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลทั่วโลกอยู่ที่ 43.85 บาท/ลิตร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight