เงินชราภาพ สิทธิประโยชน์และความหวังของผู้ประกันตน ที่โดนหักเงินสมทบทุกปี ส่วนหนึ่งจะถูกออมไว้เป็นเงินใช้จ่ายยามเกษียณ เช็คอายุ ช่องทางตรวจสอบยอดเงินกันเถอะ
สำนักงานประกันสังคม จะเก็บเงิน 5% ของเงินเดือนของผู้ประกันตนในแต่ละเดือน แต่ไม่เกิน 1,000 บาท เข้ากองทุนประกันสังคม โดยเงินที่หักไปนี้ ส่วนหนึ่งจะใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล และอีกหนึ่งส่วนจะถูกกันไว้เป็นเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณ หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า บำเหน็จและบำนาญชราภาพ
เงื่อนไขรับเงินชราภาพ ประกันสังคม
1. เป็นผู้ประกันตนภาคบังคับตามมาตรา 33 หรือผู้ประกันตนที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป ซึ่งมีสถานะเป็นลูกจ้างของสถานประกอบการที่มีพนักงานตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และไม่เกิน 60 ปี
2. เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 หรือบุคคลที่เคยทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนตามมาตรา 33 มาก่อน แต่ได้ทำการลาออกแล้วต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมของตนเอง สามารถสมัครเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 แทนได้ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นผู้ประกันตนมาก่อนแล้วไม่ต่ำกว่า 12 เดือน และลาออกจากงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน รวมถึงต้องไม่เป็นบุคคลทุพพลภาพด้วย
3. มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
4. ความเป็นผู้กันตนได้สิ้นสุดลงแล้ว
สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
1. บำเหน็จชราภาพ คือ การจ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่
- จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน ได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินที่จ่ายสมทบwxเท่านั้น
- จ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน ได้บำเหน็จเท่ากับเงินที่ผู้ประกัยตนจ่ายสมทบ บวกกับเงินที่นายจ้างจ่ายสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนที่ประกันสังคมกำหนด
2. บำนาญชราภาพ คือการจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี จะติดต่อกันหรือไม่ก็ได้ เมื่อผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน แม้ว่าจะหยุดส่งไปช่วงหนึ่งแล้วกลับมาเข้าระบบประกันสังคมใหม่ หรือส่งติดต่อกัน 15 ปีก็ตาม จะมีสิทธิ์รับบำนาญเท่ากับ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
แต่ถ้าหากมีการจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน ก็จะได้บำนาญบวกเพิ่มขึ้นไปอีก 1.5% ทุก ๆ 12 เดือน หรือ 1 ปี เช่น จ่ายเงินสมทบ 30 ปี ก็จะได้รับบำนาญเป็น 20% + (1.5% x 15 ปี) เท่ากับ 42.5%
ช่องเทางเช็คเงินสะสมกรณีชราภาพ
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว สำนักงานประกันสังคม จะเป็นผู้ส่งหนังสือแจ้งยอดเงินสมทบให้ผู้ประกันตน แต่ผู้ประกันตน ก็สามารถเช็คยอดเงินสะสมได้ ตามช่องทาง ดังนี้
- ติดต่อสอบถามโดยตรง ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวก
- โทรสอบถาม สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
- ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม หรือ คลิก ที่นี่
- แอปพลิเคชั่น SSO Connect
- LINE : @SSOTHAI
เอกสารที่ต้องใช้กรณียื่นขอรับประโยชน์ หรือผ่านบริการพร้อมเพย์
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส.2-01)
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ประเภทออมทรัพย์ ที่มีชื่อและเลขบัญชีของผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ
- ผู้ประกันตนสามารถลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารที่เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลดเงินสมทบ ประกันสังคม ‘แรงงาน’ ยัน ไม่กระทบเสถียรภาพกองทุนฯ
- ‘ประกัน สังคม’ เผยขั้นตอน เมื่อผู้ประกันตน ‘สงสัยติดโควิด’ ต้องทำอย่างไร?
- ยื่นภาษี 2565 ประกันสังคม ม.33-ม.39-ม.40 ลดหย่อนภาษีจากไหนได้บ้าง