สขค. จับตา 3 แพลตฟอร์มออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ-เดลิเวอรี-ขนส่ง เสี่ยงใช้อำนาจเหนือตลาดต่อคู่ค้า หลังมีแนวโน้มเรื่องร้องเรียนสูง พร้อมบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างรุนแรง ส่งผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์ เข้ามามีบทบาทสำคัญ และพบว่า มีแนวโน้มการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม
ต่อรูปแบบการซื้อขายสินค้าและบริการ เนื่องจากเป็นช่องทางที่รองรับได้ทั้งการค้าปลีก ค้าส่ง การบริการ การท่องเที่ยว ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจหลายราย ต้องเร่งปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด ด้วยการเข้าสู่ช่องทางดังกล่าว แต่ในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจรายเล็ก ที่ไม่มีความสามารถมากพอในการแข่งขัน ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกแย่งตลาด โดยรายใหญ่ที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่มากกว่า นำมาซึ่งการมีโครงสร้างตลาดที่ขาดความสมดุล และมีแนวโน้มการผูกขาด ซึ่งจะนำไปสู่การใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) ได้ติดตามพฤติกรรมธุรกิจให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 3 ประเภทแพลตฟอร์มที่ขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤติโควิด-19 ได้แก่
1. แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)
2. แพลตฟอร์มส่งอาหารออนไลน์ (Food Delivery)
3. แพลตฟอร์มบริการขนส่ง (E-logistic)
พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม
- แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเช่น การกำหนดเงื่อนไขในการจำกัดทางเลือกในการขนส่งสินค้า การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มสูงขึ้น หรือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อคู่ค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร การใช้ระบบอัลกอริทึมในการแข่งขันด้านราคาหรือการตลาดอย่างไม่เป็นธรรม
- แพลตฟอร์มส่งอาหารออนไลน์
ตัวอย่างเช่น การเรียกเก็บค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายจากร้านอาหารสูงขึ้นหรือค่า GP (Gross Profit) หรือเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ในการส่งเสริมการขายและโฆษณา เพื่อแนะนำร้านในอัตราเพิ่มขึ้น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
- แพลตฟอร์มบริการขนส่ง
ตัวอย่างเช่น การกำหนดเงื่อนไขที่จำกัดสิทธิแฟรนไชส์ซี หรือการกำหนดเงื่อนไขหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลังทำสัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
สำหรับข้อร้องเรียนของผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับความไม่เป็นธรรม ส่วนใหญ่ร้องเรียนพฤติกรรมที่เข้าข่ายใช้อำนาจเหนือตลาด ซึ่งการร้องเรียนดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบสืบสวนสอบสวน หากพบว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 จะเร่งดำเนินการตามกฎหมาย
ในกรณีที่เป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ ตามมาตรา 50 กรณีที่เป็นการตกลงร่วมกันกำหนดค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 54 ซึ่งมีโทษอาญา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิดหรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีที่เป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือการกำหนดเงื่อนไขทางการค้า อันเป็นการจำกัด หรือขัดขวาง การประกอบธุรกิจของผู้อื่น เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 57 มีโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 10 % ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สขค. เร่งชี้แจง ศาลปกครอง กรณี ‘ซีพีควบรวมเทสโก้’ หลังองค์กรผู้บริโภค รวมตัวร้องค้าน
- ยุ่งแล้ว! มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำทีมฟ้อง กขค. ระงับการควบรวม ‘ซีพี-เทสโก้’
- กขค.โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดง ซีพีควบรวมโลตัส-ไกด์ไลน์ฟู้ดเดลิเวอรี่