Business

‘ส.ค้าปลีก’ โวยสรรพากรทบทวนจุด ‘แวตรีฟันด์’ ใหม่

วรวุฒิ อุ่นใจ

“สมาคมผู้ค้าปลีกไทย” โวยสรรพากรทบทวนจุด ‘แวตรีฟันด์’ ใหม่ หวังรัฐเพิ่มจุด พร้อมชู 5 โลเกชั่นช้อปปิ้งกลางใจเมือง

จากกรณีที่กรมสรรพากรประกาศรับสมัครผู้ประสงค์ให้บริการเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 10-17 กันยายนที่ผ่านมานั้น ผลการอนุมัติจากกรมสรรพากรปรากฏว่า มีผู้ได้รับอนุมัติให้เป็นตัวแทนคืนแวตเพียงรายเดียว คือ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด โดยให้บริการ 3 จุด คือ สาขาลิโด้, สาขาแบงค์ค๊อกไนท์บาร์ซาร์ และสาขา ผดุงด้าว (เยาวราช) นั้น

วันนี้ (3 ต.ค.) สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และกลุ่มรีเทล ในนามบริษัทร่วมทุน “แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด” ระบุว่า หากภาครัฐต้องการผลักดันโครงการทดลองการคืนแวต รีฟันด์ในเมืองให้นักท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 31 มีนาคม 2562 ให้เกิดผลสำเร็จจริง ควรโฟกัสโลเกชั่นที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนนักท่องเที่ยว ความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยว ระบบที่รองรับอย่างเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการใช้จ่ายในหมวดสินค้าที่คืนภาษีได้ โดยบริษัทร่วมทุนฯ ภายใต้ชื่อ บริษัท แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ขอยืนยันว่า 5 โลเกชั่น ได้แก่ ห้างเซน ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ห้างเซ็นทรัล ชิดลม, ดิเอ็มโพเรียม, โรบินสัน สุขุมวิท และสยามพารากอน ตามที่เคยเสนอกับกรมสรรพากรตั้งแต่แรกเริ่มและมีการทดลองระบบกับกรมสรรพากรแล้วทั้ง 5 จุด สามารถรองรับและเอื้อต่อการบริหารจัดการโครงการดาวน์ทาวน์แวตรีฟันด์ฟอร์ทัวร์ริสต์ให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า การที่กรมสรรพากรอนุมัติให้ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด เป็นตัวแทนคืนแวตเพียงรายเดียวนั้น ส่งผลให้บริษัทร่วมทุนที่จดทะเบียนในนาม แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ประกอบด้วย ห้างเซน ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ห้างเซ็นทรัล ชิดลม, ดิเอ็มโพเรียม, โรบินสัน สุขุมวิท และ สยามพารากอน ที่เตรียมความพร้อมเคาน์เตอร์แวตรีฟันด์ฟอร์ทัวร์ริสต์ไว้เรียบร้อยแล้ว พลาดโอกาสในการสนับสนุนภาครัฐอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่มีการเตรียมความพร้อมร่วมกันกับกรมสรรพากรมาเกือบปี และรับทราบแต่แรกแล้วถึงเหตุผลว่าทำไมจึงเป็น 5 จุด เพื่อตอบโจทย์ในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและเพื่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯ อีกทั้งยังมีการประชุมพิจารณาระบบซอร์ฟแวร์และขั้นตอนการดำเนินการ รวมทั้งมีการเดินสำรวจจุดคืนแวตทั้ง 5 จุดร่วมกัน ซึ่งทางกรมสรรพากรทราบดีว่าทั้ง 5 จุดมีความพร้อมในการดำเนินงานที่สมบูรณ์ แต่ผลการอนุมัติตัวแทนคืนแวตรีฟันด์กลับเหลือแค่ผู้ประกอบการรายเดียว และมีจุดคืนแวต 3 จุด ทางสมาคมฯ และบริษัทร่วมทุนฯ จึงขอชี้แจงดังนี้

ค้าปลีกชู 5 จุดยุทธศาสตร์แหล่งช้อปปิ้งที่มีทัวร์ริสต์มากที่สุด

1. ในประเทศที่มีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยว ไม่มีประเทศใดที่ตั้งจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม แก่นักท่องเที่ยว ในร้านค้าขนาดเล็ก ทุกประเทศล้วนแล้วแต่กำหนดจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม แก่นักท่องเที่ยว ไว้ในห้างสรรพสินค้า หรือในศูนย์การค้าทั้งนั้น

2. ห้าจุดยุทธศาสตร์แหล่งช้อปปิ้งเป็นคำตอบที่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กรมสรรพากรกำหนดไว้เพราะเป็นแหล่งที่มีร้านค้าจดทะเบียน Vat Refund for Tourists มากที่สุด จึงช่วยลดความแออัดให้กับนักท่องเที่ยวในสนามบิน ได้เป็นอย่างดี ซึ่งร้านค้าขนาดเล็กอาจไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร

3. ห้าจุดยุทธศาสตร์นี้ติดอันดับต้นๆ ของจุดที่นักท่องเที่ยวรู้จัก เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะมีตารางการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างแน่นอนและมีเวลาจำกัด จุดที่กำหนดให้เป็นจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม แก่นักท่องเที่ยวจะต้องเป็นจุดที่สังเกตได้ง่าย เป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวรู้จัก

4. การพิจารณาเปิดจุดเป็น 5 จุด จาก 3 จุด มีแต่จะเอื้อประโยชน์ให้กับนักท่องเที่ยวที่มีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะใน 5 โลเกชั่นนี้ ซึ่งนับเป็นใจกลางของกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ทั้ง 5 จุดดังกล่าวยังเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ จึงมองว่าหากกรมสรรพากรอนุมัติ 5 จุดนี้ จะช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเศรษฐกิจไทยได้มาก

5. การขายสินค้าและบริการของห้างสรรพสินค้า มีขั้นตอนและกระบวนการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร จนถึงการออกใบกำกับภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ. 10) ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวยื่นแบบคําร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ. 10) มากกว่า 900,000 ใบต่อปีในบริเวณ 5 จุดดังกล่าว คิดเป็น 60% ของปริมาณการขอใบ ภ.พ. 10 ทั่วประเทศ จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะกำหนดให้ทั้ง 5 จุดเป็นจุดการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการคือ ครอบคลุมจำนวนนักท่องเที่ยว ตอบสนองความพึงพอใจ และการกระจายรายได้สู่กิจการทุกระดับ

6. จำนวนเงินในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมียอดซื้อสินค้า 2,000 บาทขึ้นไป และยกเว้นสินค้าประเภทอาหาร ผู้ที่จะสามารถออกใบกำกับภาษีแก่นักท่องเที่ยว (ภ.พ. 10) ได้ต้องเป็นร้านค้าจดทะเบียนและได้รับอนุญาตจากกรมสรรพากรเท่านั้น ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะจับจ่ายใช้สอยสินค้าในร้านค้าที่สามารถคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้จะมายื่นขอใบกำกับภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ. 10)) ที่เคาน์เตอร์บริการ VAT Refund For Tourist ณ ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่จับจ่าย และจะทำการขอคืนแวตที่เคาน์เตอร์บริการ VAT Refund For Tourist ในบริเวณเดียวกันและ/หรือที่ใกล้กับจุดที่ลูกค้าซื้อสินค้ามากที่สุด นั่นย่อมหมายความถึงความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวที่มีมากกว่าการต้องมาทำการขอคืนภาษีในร้านค้าขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลออกไป

7. เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในสกุลเงินบาท นักท่องเที่ยวก็จะจับจ่ายใช้สอยต่อเนื่อง คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจกว่า 4 พันล้านในช่วงการทดลอง 6 เดือน

8. การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโครงการให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้ง 5 จุดดังกล่าว มีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กลุ่มธุรกิจสถาบันการเงิน, ธุรกิจการบิน, สมาคมการค้า รวมทั้งมีสื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ของตัวเอง ที่สามารถช่วยในการโปรโมทการคืนภาษีให้แก่นักท่องเที่ยวในเมือง ได้เป็นอย่างดี สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็น วงกว้าง รวดเร็ว

9. การที่กรมสรรพากรอนุมัติจุดคืนภาษีแก่นักท่องเที่ยวให้มีจำนวนมาก ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายและไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งอยู่ในบรรยากาศของการจับจ่าย เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นและเป็นช่วงเทศกาล

ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ภายใต้การบริหารงานบริษัท แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด พร้อมที่จะทำงานร่วมกันกับรัฐบาล ด้วยความชำนาญด้านค้าปลีก และหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ ก็หวังว่ารัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ร้านค้าที่เข้าเกณฑ์ทั่วประเทศได้มีเคาท์เตอร์คืนแวตรีฟันด์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight