- อ่านประกาศฯ ฉบับเต็ม คลิก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2563/A/088/T_0006.PDFก่น
ก่อนหน้านี้ นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดี กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2563 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาและจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564
สาระสำคัญของกฎกระทรวงดังกล่าว นอกจากเพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้องผ่านการอบรมและทดสอบเพิ่มเติมแล้วนั้น ยังมีสาระสำคัญในเรื่องของใบรับรองแพทย์ที่ต้องใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินการ ต้องแสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัว หรือสภาวะของโรค ที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่า อาจเป็นอันตรายขณะขับรถตามที่แพทยสภากำหนด
ในส่วนนี้ ขบ. จะประสานความร่วมมือกับแพทยสภาในการกำหนดโรคหรือสภาวะของโรคที่ต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) และจะวางแนวทางในการตรวจรับรองของแพทย์กับแพทยสภาให้เรียบร้อยก่อนกฎกระทรวงจะมีผลใช้บังคับ
นอกจากนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวยังกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขอ ต่อใบขับขี่ จะต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบในการดำเนินการอีกด้วย ซึ่งแต่เดิมการต่ออายุใบขับขี่ไม่มีการกำหนดให้ใช้ใบรับรองแพทย์ แต่ด้วยข้อเท็จจริงว่า สมรรถภาพของร่างกายของผู้ขับรถย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป ตามวัยที่เพิ่มมากขึ้นและอาจมีโรคประจำตัว หรือมีสมรรถภาพของร่างกายที่บกพร่องจนไม่สามารถขับรถได้ จึงกำหนดให้ต้องมีใบรับรองแพทย์มาประกอบในการต่ออายุใบขับขี่
ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการขอรับและขอต่ออายุใบขับขี่ รถทุกชนิดทุกประเภทต้องมี ใบรับรองแพทย์ ยื่นประกอบการดำเนินการด้วย
นายยงยุทธ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้องผ่านการอบรมและทดสอบการขับรถเพิ่มเติม ตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมการให้อำนาจนายทะเบียนสามารถพิจารณาให้ผู้ขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ต้องเข้ารับการตรวจและนำใบรับรองแพทย์ มายืนยันความเหมาะสมในการขับรถ
รวมทั้ง ยังได้กำหนดให้ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบในการดำเนินการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถดังกล่าวด้วย โดยร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า บิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป เป็นพาหนะที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ผู้ขับขี่ต้องมีความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย และมีประสบการณ์การใช้งาน เพราะรถมีสมรรถนะค่อนข้างสูง กำลังแรง และน้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นการใช้รถต้องอาศัยทักษะความชำนาญ เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บนท้องถนน
ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ เพื่อความปลอดภัย
ปัจจุบันมี บิ๊กไบค์ หรือ รถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป จดทะเบียนทั้งสิ้น 216,547 คัน จากจำนวนรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 21,284,775 คัน
การที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ จะส่งผลให้สามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และประชาชนผู้ใช้ถนนไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
ขณะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ….. ที่แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีการเพิ่มเติมข้อกำหนดให้คุมเข้มบิ๊กไบค์ หรือ ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้องผ่านการอบรม และทดสอบการขับรถตามที่อธิบดีประกาศกำหนดเป็นการเพิ่มเติม อันจะส่งผลให้ สามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และประชาชนผู้ใช้ถนน มิให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม