ประกาศกฎกระทรวงใหม่! จากนี้ “ต่อใบขับขี่” ต้องยื่นใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน เช็คความพร้อมร่างกาย เริ่ม 19 ก.พ. 64
นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดี กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา กฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2563 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาและจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564
สาระสำคัญของกฎกระทรวงดังกล่าว นอกจากเพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้องผ่านการอบรมและทดสอบเพิ่มเติมแล้วนั้น ยังมีสาระสำคัญในเรื่องของใบรับรองแพทย์ที่ต้องใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินการ ต้องแสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัว หรือสภาวะของโรค ที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่า อาจเป็นอันตรายขณะขับรถตามที่แพทยสภากำหนด
ในส่วนนี้ ขบ. จะประสานความร่วมมือกับแพทยสภาในการกำหนดโรคหรือสภาวะของโรคที่ต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) และจะวางแนวทางในการตรวจรับรองของแพทย์กับแพทยสภาให้เรียบร้อยก่อนกฎกระทรวงจะมีผลใช้บังคับ
นอกจากนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวยังกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขอ ต่อใบขับขี่ จะต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบในการดำเนินการอีกด้วย ซึ่งแต่เดิมการต่ออายุใบขับขี่ไม่มีการกำหนดให้ใช้ใบรับรองแพทย์ แต่ด้วยข้อเท็จจริงว่า สมรรถภาพของร่างกายของผู้ขับรถย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป ตามวัยที่เพิ่มมากขึ้นและอาจมีโรคประจำตัว หรือมีสมรรถภาพของร่างกายที่บกพร่องจนไม่สามารถขับรถได้ จึงกำหนดให้ต้องมีใบรับรองแพทย์มาประกอบในการต่ออายุใบขับขี่
ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการขอรับและขอต่ออายุใบขับขี่ รถทุกชนิดทุกประเภทต้องมี ใบรับรองแพทย์ ยื่นประกอบการดำเนินการด้วย
กำหนดหลักสูตรสอบ ใบขับขี่ “บิ๊กไบค์”
นายยงยุทธ รองอธิบดี ขบ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าการกำหนดหลักเกณฑ์อบรมและทดสอบเพิ่มเติมสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อม เพื่อรองรับเมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีการกำหนดหัวข้อหลักสูตรการอบรมและทดสอบ ประกอบด้วย การอบรมภาคทฤษฎีที่เกี่ยวกับผู้ขับขี่ ยานพาหนะ สภาพแวดล้อม เป็นต้น การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ เป็นการฝึกขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อย่างปลอดภัย และการทดสอบขับรถ เพื่อคัดกรองให้การออก ใบขับขี่ มีความเหมาะสมกับประเภทของยานพาหนะ เกิดความปลอดภัยต่อผู้ขับรถ และได้มาตรฐานของการออกใบขับขี่
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นโดยเฉพาะผู้ขับรถบิ๊กไบค์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใช้ทักษะการขับรถสูงกว่าปกติ สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ และประชาชนผู้ใช้ถนนไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
เงื่อนไขต่อใบขับขี่ปัจจุบัน
สำหรับการ ต่อใบขับขี่ รถส่วนบุคคล (ต่อชนิด 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี) ตามกฎกระทรวงฉบับปัจจุบัน มีรายละเอียดดังนี้
คุณสมบัติของผู้ขอรับใบขับขี่
- เป็นผู้ที่ได้รับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ใบขับขี่รถบดถนน ใบขับขี่รถแทรกเตอร์ หรือใบขับขี่รถชนิดอื่นอยู่เดิมแล้ว
- ผู้ขอยังคงมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้ถือใบขับขี่ชนิดนั้นๆ
- กรณีขาดต่อเกิน 1-3 ปี ต้องมาติดต่อจองคิวที่สำนักงานฯ ทั่วประเทศ
ผู้ต้องการต่อ ใบขับขี่ ต้องทำการจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือผ่านเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของ ขบ. เท่านั้น
หลักฐานประกอบคำขอ
- ใบขับขี่ เดิม หรือใบแทน
- บัตรประชาชนฉบับจริง
ขั้นตอนการดำเนินการ
- ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่
ทดสอบ การมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
ทดสอบ สายตาทางลึก
ทดสอบ สายตาทางกว้าง
ทดสอบ ปฎิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
- อบรม 1 ชั่วโมง
- ชำระค่าธรรมเนียม ปิดรับชำระเงิน 15.30 น./ ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่/ จ่าย ใบขับขี่
สำหรับกรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะเพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน
สำหรับกรณีใบอนุญาตสิ้นอายุเกิน 3 ปี จะเพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน และการสอบขับรถ และใบรับรองแพทย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ระเบียบใหม่ล่าสุด ‘ขอ-ต่ออายุ’ ใบขับขี่
- ‘บิ๊กไบค์’ 2 แสนคันเตรียมสอบใบขับขี่เพิ่ม มีผล 120 วัน หลังประกาศลงราชกิจจาฯ
- ยึด ‘ใบขับขี่ตลอดชีพ’ กฎหมายไม่มีช่อง คนไม่เห็นด้วย ลงท้ายปัดเป็น Fake News