Business

เฮ!! ส่งออกไทยเดือน เม.ย.ขยายตัว 2.12%

“กระทรวงพาณิชย์” เผยส่งออกเดือนเมษายนขยายตัว 2.12% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ประเมินภาพรวมการส่งออกช่วงครึ่งปีหลังน่าจะค่อยๆ ดีขึ้น

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนเมษายน 2563 มีมูลค่า 18,948 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2.12% แม้จะขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ถือว่าชะลอตัวลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่ขยายตัว 4.17% เพราะต้องยอมรับว่าการปิดประเทศ ทำให้ระบบโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า ยังมีปัญหา และกระบวนการนำเข้าที่ล่าช้า และสินค้าส่งออกสำคัญของไทยในภาคการผลิต หรือ Real Sector โดยเฉพาะรถยนต์และส่วนประกอบหดตัวถึง 53.8% รวมถึงคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หดตัวด้วยเช่นกัน

99123290 2546886512292296 263525178804273152 o

อย่างไรก็ตาม ถือว่าไทยยังได้รับผลดีจากสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่มีสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 20% ของการส่งออกทั้งหมด โดยเฉพาะข้าวกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 18 เดือน และกลุ่มอาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูป และเครื่องปรุงรส ล้วนขยายตัวทั้งหมด ตามความต้องการสินค้าอาหารของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ รวมทั้งตลาดส่งออกสำคัญยังคงไปได้ดี ทั้งสหรัฐอเมริกาขยายตัวสูงถึง 34.6% ญี่ปุ่นขยายตัว 9.8% และฮ่องกง ขยายตัวถึง 38.2%

98133360 2546886745625606 1770846137473826816 o

ขณะที่ภาพรวมในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่าการส่งออกรวม 81,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังเป็นบวกที่ 1.19% ทำให้กระทรวงพาณิชย์ยังคงประเมินภาพรวมการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 ยังหดตัว แต่ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะค่อยๆ ดีขึ้นตามความต้องการสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอาหารของไทยยังมีความต้องการสูง แต่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมยังคงเจอปัญหาติดขัดด้านการขนส่ง ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมการส่งออกของไทย ช่วงที่เหลือของปีน่าจะเฉลี่ยเดือนละ 20,500 ล้านดอลลาร์ ทำให้การส่งออกทั้งปีติดลบ 0.5% โดยยังคงต้องติดตามการแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐ รวมถึงอินเดีย จะลดน้อยลงแค่ไหน

99284460 2546887642292183 4041576689531092992 o

ทั้งนี้ หากสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้เร็วจะทำให้การส่งออกไทยกลับมาดีขึ้นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง และปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รอบใหม่จะมีความรุนแรงขึ้นอีกหรือไม่ เพราะต้องดูท่าทีประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ปลายปี จึงยังไม่แน่ใจว่ามาตรการตอบโต้จีนจะมีแค่ไหน จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

Avatar photo