Business

คิกออฟ!! จ่ายเงินประกันรายได้ชาวสวนยาง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นประธานคิกออฟ เปิดโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 มีเป้าหมายเกษตรกรชาวสวนยาง ทั้งเจ้าของสวนและคนกรีดยางรวมกว่า 1.7 ล้านราย ที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลการปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2562

75317310 10156377958436791 5829585915751694336 o

โดยเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไป ที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ รวมทั้งประกันราคายางแผ่นดิบ 60 บาทต่อกิโลกรัม น้ำยางสด 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วย 23 บาทต่อกิโลกรัม ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณกว่า 23,478 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเป็นผู้สำรองจ่ายเงินให้เกษตรกรไปก่อน โดยจะเริ่มดำเนินการโอนเงินงวดแรกตั้งแต่วันนี้ (1พ.ย.) เป็นต้นไป ในวันนี้ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงกว่า 50,000 ราย เป็นเงินกว่า 170 ล้านบาท

นายจุรินทร์ กล่าวกับเกษตรกรที่มาร่วมงาน ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มีการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง โครงการนี้ไม่ใช่โครงการประกันราคายางพารา แต่เป็นโครงการประกันรายได้เกษตรกร ที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ต่อไปรัฐบาลจะมีโครงการสวนยางยั่งยืน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชแซมได้อีกหนึ่งชนิดในสวนยาง

73216517 10156377951331791 4458361793403682816 o

ทั้งนี้ จากการเดินทางไปเจรจาขายยางพาราที่อินเดียเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไทยสามารถขายยางพาราให้อินเดียได้ 100,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศกว่า 9,000 ล้านบาท และยังมีโครงการจะนำยางพาราไทยไปเสนอขายที่ตุรกีและเยอรมนีในโอกาสต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวว่าโดยนโยบายประกันรายได้ไม่ใช่นโยบายประกันราคา หลายคนยังเข้าใจสับสนที่บอกว่า ไม่ใช่เพราะว่าราคานั้นประกันไม่ได้ เพราะมันจะขัดกับหลักการขององค์การการค้าโลกหรือ WTO ราคาจึงต้องเป็นไปตามกลไกตลาดนั้น คือขึ้นอยู่กับผลผลิตถ้าผลผลิตมากความต้องการใช้น้อยราคาก็ต่ำถ้าผลผลิตน้อยความต้องการใช้มากราคาก็สูงขึ้นอดีต  ที่ผ่านมาก่อนมีรัฐบาลนี้เกษตรกรชาวสวนยางจะมีรายได้ทางเดียวคือรายได้จากการขายยางตามราคาตลาด

74205767 10156377955421791 7826051650266595328 o

ที่ผ่านมามีปัญหาเพราะราคายางทั่วโลกตกต่ำ และเพราะมีผลกระทบกับประเทศไทยด้วยทำให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้น้อยลงตรงนี้จึงเป็นที่มาของโยบายรัฐบาลชุดนี้ ที่ได้จัดให้มาโครงการประกันรายได้ขึ้นมา จากนี้ไปเกษตรกรจะมีรายได้ทางที่สองด้วย คือรายได้จากเงินส่วนต่างที่รัฐบาลนี้จะจ่ายให้กับชาวสวนยางทั่วประเทศ ในหนึ่งปีฤดูกาลผลิตเราจะโอนให้ทุกสองเดือน และจะดำเนินการไปเรื่อยเรื่อยตราบเท่าที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้

การคำนวณการประกันรายได้ ให้เอารายได้ที่ประกันเป็นตัวตั้ง รัฐบาลชุดนี้ประกันรายได้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่กิโลกรัมละ 60 บาท และน้ำยางสด 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วยที่ 23 บาทต่อกิโลกรัม

75258635 10156377953201791 606198358536617984 o

โดยยางแผนดิบที่กิโลกรัมละ 60 บาทเป็นตัวตั้งแล้วเอาราคาตลาดเป็นตัวลบ เราประกันรายได้ให้ชาวสวนยางหัวละไม่เกิน 25 ไร่ขึ้นอยู่กับผลผลิตของพี่น้องว่าได้กี่กิโลกรัม และจะเป็นเงินส่วนต่างที่พี่น้องได้รับซึ่งพี่น้องผลิตยางแผ่นดิบชั้นสามประกันรายได้กิโลละ 60 บาท ถ้าพี่น้องมีสวนยาง 25 ไร่พอดี พี่น้องจะได้รับเงินส่วนต่าง 10,515 บาท  ในหนึ่งฤดูกาลผลิตจะโอนให้ทุกสองเดือนโดยเงินงวดต่อไป 10,515 บาท

สวนยางก้อนถ้วยกรณี 25 ไร่ได้รับ 6,810 บาท และรัฐบาลจะโอนให้ทุกสองเดือนโดยงวดแรกคือวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 งวดต่อไป วันที่ 1 มกราคม 2563 และงวดต่อไปงวดที่ 3 วันที่ 1 มีนาคม 2563 จะดำเนินการไปเรื่อยๆ  เพราะรัฐบาลชุดนี้ถือว่าโยบายประกันรายได้ชาวสวนยางเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ได้แถลงต่อวุฒิสภาและเป็นคำมั่นสัญญาต่อพี่น้องประชาชนชาวสวนยางทั้งประเทศ

73554702 10156377957101791 3421614932200783872 o

“สำหรับเกษตรกรบัตรสีชมพู มีสิทธิ์ได้เงินส่วนต่างหรือไม่ ผมถามท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ตอบว่าได้ครับโดยขออย่างเดียวคือขอให้ปลูกจริง แจ้งจริงว่าปลูกชนิดไหน กี่ไร่ ไม่ใช่ทำยางก้อนถ้วยแต่ไปแจ้งทำยางแผ่นดิบอันนี้ไม่ได้เพราะเงินส่วนต่างไม่เท่ากัน การยางฯจะเข้าไปตรวจสวนจากนั้น ธกส.จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีพี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องมีเงินเข้ากระเป๋าสองด้าน ด้านที่หนึ่งคือการขายได้ตามราคาตลาด และเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าขวา ทำให้มีรายได้สองกระเป๋าและรัฐบาลชุดนี้ยังมีนโยบายเสริมที่ต้องดึงให้ราคายางในประเทศสูงขึ้นด้วย” นายจุรินทร์ กล่าว

ประการแรก คือ อีก 1 เดือนหน้าพาพี่น้องประชาชน สู่การประเมินสวนยางยั่งยืนคือ การที่จะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเกษตรกรชาวสวนยางไม่ต้องพึ่งพาต้นยางอย่างเดียวในพื้นที่แต่เปิดโอกาสให้ปลูกพืชแซม นี่คือนโยบายประการที่หนึ่ง ประการที่สอง จะเพิ่มการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดย ส่งเสริมให้มีการลงทุนอุตสาหกรรมยางเพื่อมาผลิต ผลิตผลในประเทศมากขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีข่าวดีที่ภาคตะวันออก คือจะมีการตั้งโรงงานขยายการผลิตอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท จะทำยางพาราจะใช้ยางในประเทศมากขึ้น ขายดียิ่งขึ้น

75110324 10156377959261791 1335670885582897152 o

สำหรับภาคราชการจากนี้ไปการยางจะนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อรายงานให้รัฐมนตรีทราบว่า ที่เคยสัญญาว่าจะนำยางไปทำถนนไปทำสนามกีฬา ทำไปแล้วมากน้อยอย่างไรเพื่อกระตุ้นการใช้ยางภายในประเทศ เราจะได้ราคายางที่ดีขึ้น และกระทรวงพาณิชย์ กำลังดำเนินการที่จะทำอย่างไรให้ยางไทยส่งออกไปตลาดต่างประเทศมากขึ้นภายใต้โดยนโยบายตนและนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะให้ฑูตพาณิชย์ทั่วโลก  ต้องช่วยขายยางให้พี่น้องเกษตรกร

“ผมไปอินเดียมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเราสามารถพานักลงทุนไป เปิดตลาดยางที่อินเดียได้สำเร็จขายยางได้ 100,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศ 9,000 กว่าล้านบาท จากนี้ไป หลังประชุมอาเซียน ผมขออนุญาตท่านเฉลิมชัย ไปบุกตลาดยางที่ตุรกีและเยอรมัน  มั่นใจว่าจะมีข่าวดีให้กับพี่น้อง สุดท้ายนี้มันใจว่าการสั่งการของท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัยบวกการยางอีกไม่กี่วันข้างหน้าเราจะมีข่าวดีให้เกษตรกรชาวสวนยาง เราจะขายยางในปริมาณที่มากทีเดียว  ขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่จะได้รับเงินส่วนต่างครั้งแรกในประวัติศาสตร์  ทำให้ผมและท่านเฉลิมชัย สามารถทำนโยบายประกันรายได้ชาวสวนยังทำได้ไว ทำได้จริง” นายจุรินทร์ ประกาศท่ามกลางเสียงปรบมือของเกษตรกร

73413230 10156377961931791 298767524361666560 o

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายในส่วนของการประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในพืชห้าชนิดข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารามันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งณวันนี้ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่นโยบายจนกระทั่งถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 98 วัน ที่รัฐบาลชุดนี้ทำได้ไวทำได้จริงคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 อนุมัติโครงการประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางระยะที่หนึ่งซึ่งนับจากวันนั้นจนกระทั่งถึงวันนี้ที่ชาวสวนยางได้รับเงินจากการประกันรายได้ใช้เวลาทั้งสิ้นเพียง 16 วันในการให้พี่น้องเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างที่เป็นการประกันรายได้ช่วยครองชีพของพี่น้องชาวเกษตรกรชาวสวน ซึ่งเป็นพืชลำดับที่ 3 ที่ชาวเกษตรกรได้รับจากโครงการประกันรายได้

วันนี้ถือเป็นวันที่พี่น้องเกษตรกรได้จดจำจารึกไว้วันหนึ่งว่า สิ่งที่เราได้สัญญาไว้กับพี่น้องในการที่จะประกันรายได้เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเราสามารถทำตามคำพูดและดำเนินการจนกระทั่งเงินมาถึงมือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางได้

73539741 10156377965251791 6524676516628922368 o

สำหรับหลักเกณฑ์ของการคือเอาเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทยก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2512 และเปิดโอกาสให้พี่น้องตามหลักเกณฑ์ที่การยางแห่งประเทศไทยกำหนดคือยังอายุเจ็ดปีขึ้นไปและเปิดน่ากินแล้วรายละไม่เกิน 25 ไร่ได้ทั้งเอกสารบัตรสีเขียวและบัตรสีชมพูทั้งสิ้น จำนวน 1,711,252 ราย พื้นที่สวนยางรวม 17,201,391 ไร่ หรือประมาณ 86% ของพื้นที่ทั้งหมด ปริมาณยางที่จะประกันรายได้ (ยางแห้ง) 240 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือ 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ระยะเวลาดำเนินการ (ต.ค. 2562 – ก.ย. 2563) ระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน (ต.ค. 2562 – มี.ค.2563) จ่ายเงินชดเชย 2 เดือน 1 ครั้ง

โดย ธ.ก.ส. ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยาง งวดที่ 1 จ่ายระหว่าง วันที่ 1 – 15 พฤศจิกายน2562, งวดที่ 2 จ่ายระหว่างวันที่ 1 – 15 มกราคม 2563 และงวดที่ 3 จ่ายระหว่างวันที่ 1- 15 มีนาคม2563 โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวน 60% และคนกรีด 40%

73053595 10156377960876791 1976625309184688128 o

74313902 10156377960916791 5525392310096887808 o

73100863 10156377955701791 468370152178581504 o 1

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight