เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ ลุยขยายธุรกิจ ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ หลังเปิดบริการ 2 สาขาผลตอบรับพุ่ง เล็งเพิ่ม 2 สาขาใหม่ปลายปีนี้ ตั้งเป้าปี 65 ขยายพื้นที่ครบ 2 หมื่น ตร.ม.ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจ
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเดินหน้าขยายธุรกิจ Self-Storage หรือบริการให้เช่าห้องเก็บของส่วนตัว ภายใต้ชื่อ JWD Store It! (เจดับเบิ้ลยูดี สโตร์ อิท!) เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดและต้องการเช่าห้องเก็บส่วนตัวที่แยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่พักอาศัย
ทั้งนี้ เนื่องจากหลังเปิดให้บริการสาขาแรกที่ศรีกรีฑา (ถนนกรุงเทพกรีฑา) พบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้า โดยปัจจุบันมีอัตราเช่าพื้นที่กว่า 90% และสาขา 2 ที่ สยาม ในโครงการ Zy Walk ซึ่งในเฟสแรก มีอัตราเช่าพื้นที่กว่า 70% อยู่ระหว่างเตรียมเปิดให้บริการเฟสใหม่ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้บริการใหม่ “ตู้นิรภัยให้เช่า” เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเช่าพื้นที่เก็บของมีค่า เนื่องจากปัจจุบันธนาคารหลายแห่งมีตู้เซฟไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยมีพื้นที่ให้บริการกว่า 2,000 ช่อง
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทจะเปิดให้บริการ JWD Store It! เพิ่มขึ้นอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาเทียนร่วมมิตร มีพื้นที่ให้เช่ารวม 2,000 ตารางเมตร และสาขารามอินทรา มีพื้นที่ให้เช่ารวม 1,800 ตารางเมตร เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในย่านรัชดาภิเษก ห้วยขวาง พระราม 9 เอกมัย-รามอินทรา และเกษตร-นวมินทร์
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายจะเน้นผู้พักอาศัย ผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี หรือผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้าที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง รวมถึงสามารถเข้า-ออกพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้จากพาร์ทเนอร์ ได้แก่ สโตร์อิท แมเนจเม้นท์ จากประเทศสิงคโปร์
“Self-Storage เป็นธุรกิจที่มีอนาคต เห็นได้จากเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฯลฯ ก็มีผู้ดำเนินธุรกิจประเภทนี้และมีเทรนด์การเติบโตที่ดี JWD จึงมีแผนลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 2-3 สาขา เน้นพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่น อาทิ เยาวราช สาทร เป็นต้น”นายชวนินทร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ยังวางเป้าหมายขยายสาขาทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการในธุรกิจ Self-Storage เป็นกว่า 2 หมื่นตารางเมตรภายในปี 2565 ยกระดับเป็นผู้นำธุรกิจ
