Business

วีซ่าฟรี-เทศกาล หนุนขนส่งทางอากาศไตรมาส 1 เติบโต ผู้โดยสารเพิ่ม 12.04%

CAAT เผยภาพรวมการขนส่งทางอากาศไตรมาส 1 ปี 2567 เติบโตต่อเนื่อง มาตรการวีซ่าฟรี วันหยุดเทศกาล หนุนผู้โดยสารเพิ่ม 12.04% เที่ยวบินเพิ่ม 5.66%

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) รายงานภาพรวมการขนส่งทางอากาศไตรมาสที่ 1 ยังคงมีแนวโน้มการเจริญเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างประเทศ จากความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาล และผลจากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) รวมถึงการขยายผลในมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกันไทย-จีน

วีซ่าฟรี

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 มีจำนวนผู้โดยสารรวม 36.86 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.04% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศ 5.08% และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 18.46% เนื่องจากความต้องการเดินทางในช่วงเทศกาลที่เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติ ทั้งเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน

นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบทางบวกอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

จำนวนผู้โดยสาร

สำหรับปริมาณเที่ยวบินในไตรมาส 1 มีจำนวนทั้งสิ้น 221,852 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 5.66% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินระหว่างประเทศ 11.35% เนื่องจากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา

ทั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม 2567 ที่ความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างไทย-จีน เริ่มมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ความต้องการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการเพิ่มความถี่ในการบินมากขึ้น โดยเฉพาะในเส้นทางบินระหว่างไทย-จีน ขณะที่ปริมาณเที่ยวบินภายในประเทศ เพิ่มขึ้นเพียง 0.70% จากไตรมาสก่อนหน้า

ปริมาณเที่ยวบิน

ด้านปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศ ในช่วงไตรมาส 1 ภาพรวมมีปริมาณใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปริมาณการขนส่ง 288.74 พันตัน เพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้าเพียง 3.64% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศภายในประเทศ
5.11% และการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ 3.60%

ปริมาณขนส่่ง

สถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งทางอากาศ

การยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย-จีน และผลต่อเนื่อง

หลังจากที ่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบการกระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) ให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางจีน คาซัคสถาน อินเดีย และ ไต้หวัน ตั้งแต่ปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ผลจากมาตรการดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมการท่องเเที่ยวและการขนส่งทางอากาศของไทยต่อเนื่องมาถึงช่วงไตรมาสที ่ 1 ปี 2567

นอกจากนี้ ยังมีการขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้กับประเทศที่มาตราการยกเว้นการตรวจลงตราหมดอายุ อย่างประเทศคาซัคสถาน ต่อไปอีก 6 เดือนจากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 และการลงนามในความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทย-จีน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567

สาระสำคัญของความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน ได้แก่ การยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทยและผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการและหนังสือเดินทางธรรมดาของจีนในการเดินทางเข้า/ออก ทั้งสองประเทศ โดยให้ระยะเวลาพำนักครั้งละไม่เกิน 30 วัน (ภายในเวลา 180 วัน ระยะการพำนักรวมกันต้องไม่เกิน 90 วัน) สำหรับการท่องเที่ยวและการเยี่ยมเยือน

ผลจากการลงนามในความตกลงดังกล่าว นอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นปัจจัยบวกต่อสถานการณ์การขนส่งทางอากาศของไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้เกิดความสะดวกและความคล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการการเดินทางระหว่างกันเพิ่มสูงขึ้น

เมื่อพิจารณาผลกระทบของการดำเนินมาตรการ/ข้อตกลงดังกล่าวต่อภาคการขนส่งทางอากาศ โดยพิจารณาจากจำนวนผู ้โดยสารระหว่างประเทศแยกรายประเทศ/ดินแดน ที่ได้รับผลจากความตกลง/มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา พบว่า ทุกประเทศ/ดินแดนมีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเข้าออกประเทศไทยเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าหรือช่วงก่อนการดำเนินมาตรการ ดังนี้

  • จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกไทย จากคาซัคสถานในไตรมาส 1 พบว่า มีจำนวน  182,732 คน มากกว่าช่วงไตรมาสก่อนหน้า 40.63%
  • จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกไทยจากอินเดียมีจำนวน 1,154,381 คน ในช่วงไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 6.35%
  • จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกไทยจากไต้หวันในไตรมาส 1 มีจำนวน 914,180 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 11.19%
  • จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกจากจีนซึ่งถือเป็นกลุ่มนักเดินทางหลักของไทย ในช่วงไตรมาส 1 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,658,103 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 62.67% ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากมาตรการฟรีวีซ่า และความตกลงยกเว้นการลงตราตรวจระหว่างกัน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเฉพาะช่วงความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา พบว่า ในเดือนมีนาคม 2567 มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเข้าออกจากประเทศจีนมากถึง 1,274,487 คน หรือเฉลี่ยวันละ 41,113 คน มากกว่าค่าเฉลี่ยในเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ ที่มีค่าเฉลี่ยผู้โดยสารเดินทางเข้าออกจากจีนอยู่ที่ 39,727 คน โดยเส้นทางบินระหว่างไทยและจีน ที่มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเข้าออกสูงสุด ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพ-เซี่ยงไฮ้

ผู้โดยสาร วีซ่าฟรี

การเดินทางในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว

ในช่วงไตรมาสแรกของปี ถือเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว (High Season) สำคัญช่วงหนึ่งโดยมีเทศกาลและวันหยุดยาวที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งเทศกาลขึ้นปีใหม่ในเดือนมกราคม เทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ส่งผลให้มีความต้องการเดินทางมากขึ้น ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีจำนวนผู้โดยสาร เดือนมกราคม 2567 รวมกว่า 12.3 ล้านคน มากกว่าเดือนธันวาคม 2566 ที่เป็นช่วงืั้มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดของปี 2566 ถึง 3.9% และมากกว่า 18.37% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนมากเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารระหว่างประเทศ 42.92%

ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้ภาพรวมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีผู้โดยสาร กว่า 12 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้า 25.02% และเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารระหว่างประเทศถึง 49.33%

จับตาเป้าหมายผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยหนึ่งเป้าหมายที่สำคัญคือ การผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) พร้อมตั้งเป้าการเป็นศูนย์กลางการบินของโลก ภายใน 5 ปี

ขณะเดียวกัน จะเร่งขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 270 ล้านคนภายในปี 2580 การรองรับเที่ยวบิน การพัฒนาโครงสร้างพื้นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการบินของประเทศ รองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการบิน
และเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของทวีปเอเชียแปซิฟิกด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ

การประกาศวิสัยทัศน์ดังกล่าว ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม เนื่องจากเป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนาด้านการขนส่งทางอากาศของประเทศ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อภาคอุตสาหกรรมการบินทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและนักลงทุน

shutterstock 2332947793

ผลต่อเนื่องของวีซ่าฟรี

การยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย-จีน แม้จะมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 แต่คาดว่าจะส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเข้าออกจาก
จีนมากขึ้นต่อเนื่องในช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2567 จากความคล่องตัวในการเดินทางระหว่างสองประเทศ

ประกอบกับการดำเนินนโยบายสนับสนุนเปิดรับการท่องเที่ยวของจีน ที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากขึ้น โดยปัจจุบันพบว่า สายการบินสัญชาติ
ไทยหลายสายการบินได้เพิ่มความถี่ในการบิน และเพิ่มเส้นทางบินระหว่างสองประเทศมากขึ้น

การเจรจาขยายสิทธิการบินไทย-อินเดีย

เมื่อวันที่ 14-15 มีนาคม 2567 กพท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมเจรจากับคณะผู้แทนจากประเทศอินเดีย ถึงการขยายสิทธิการทำการบินและเพิ่มโอกาสการทำการบินเส้นทางเมืองรอง

ผลจากการเจรจา ทำให้สายการบินของทั้งสองฝ่าย สามารถขยายความความจุและความถี่ในการทำการบิน และสามารถขยายโอกาสในการทำการบินในเส้นทางเมืองรอง โดยจะมีผลตั้งแต่การทำการบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2567 เป็นต้นไป

การเพิ่มความถี่ในการทำการบินช่วงเทศกาลสงกรานต์

ความต้องการเดินทางที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาล ทำให้ความถี่ของการทำการบินในช่วงเวลาปกติไม่สามารถรองรับความต้องการเดินทางที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ในช่วงเทศกาลสำคัญ และอาจส่งผลกระทบต่อราคาค่าโดยสาร

ดังนั้น เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กพท.จึงได้ประสานสายการบินภายในประเทศ วางแผนจัดสรรตารางบิน และเพิ่มความถี่ในการทำการบิน ไปยังสนามบินหลักตามภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย อุบลราชธานี อุดรธานี และ ขอนแก่น เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo