Business

ลลิลฯ ลุยเปิด 8-12 โครงการใหม่ปีนี้ รวมมูลค่า 7,000-8,000 ล้าน กำงบซื้อที่ดิน 1,500 ล้าน

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” ประกาศแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 8-12 โครงการ มูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท เตรียมงบซื้อที่ดินเพิ่ม 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 6,550 ล้านบาท 

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ที่ผ่านมาว่า โลกยังคงต้องเผชิญความเสี่ยงที่ต่อเนื่องมาจากปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ประเด็นขัดแย้งที่ก่อเกิดขึ้นเป็นระยะในหลายภูมิภาค

ลลิล

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพยายามควบคุมเงินเฟ้อ โดยการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ยุโรป โดยเฉพาะเฟดมีการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนมาอยู่ที่ระดับ 5.25% – 5.50% ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบกว่า 20 ปี ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปี 2565

ในส่วนของเศรษฐกิจไทย ซึ่งเศรษฐกิจมีการพึ่งพิงต่างประเทศอย่างมาก ทั้งจากการส่งออก การท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ยุโรป ตลอดจนประเทศจีน ส่งผลให้การส่งออกของไทยทั้งปีน่าจะหดตัวที่ราว 1.5%

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว แม้จะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2565 แต่ก็เป็นการขยายตัวได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่กลับมา

ในส่วนของการบริโภคและการลงทุนภาครัฐ ก็หดตัวลงจากจัดตั้งรัฐบาล และการจัดทำงบประมาณที่ล่าช้า ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ขยายตัวได้ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้มาก

ส่องปัจจัยความท้าทายปี 3567

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 นี้ คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ราว 2.5-3.5% อย่างไรก็ตามยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง ทั้งปัจจัยจากต่างประเทศและในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในหลายประเทศสำคัญทั่วโลก มาตรการกระตุ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

ภาพรวมประเทศไทย ภาระหนี้สาธารณะ และภาระหนี้ครัวเรือนที่ค่อนข้างสูง ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับในปี 2567

อย่างไรก็ดี มองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นี้ ยังคงมีปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นการที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงได้ในช่วงครึ่งหลังของปี จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

Lalin Group Photo re

การต่ออายุมาตรการภาครัฐ ลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าธรรมเนียมจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ไปถึงสิ้นปี 2567 การส่งออก และการท่องเที่ยวที่ น่าจะดีขึ้น รวมถึงการเข้ามาลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น จะช่วยให้เกิดการจ้างงาน และเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

แผนงานของบริษัทในปี 2567 นี้ จะเน้นการดำเนินธุรกิจ และการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ในตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยวางงบในการซื้อที่ดินไว้ที่ 1,500 ล้านบาท มีแผนเปิดโครงการเพิ่มเติมที่ 8 – 12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000-8,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,550 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 5,250 ล้านบาท

ด้านนายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ ลลิลฯ ยังคงเน้นย้ำแนวคิดในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG)

นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงปัจจัยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและน้ำ การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้รับคุณภาพวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และสังคมที่ดี

สำหรับแผนการตลาด ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าโดยยึดหลัก Customer Centric ผ่านกลยุทธ์ทั้ง Lifestyle Marketing และ Experience Marketing เสริมประสิทธิภาพด้วยการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ โดยการทำ Brand collaboration เพื่อเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ อีกทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกกลุ่มเป้าหมายด้วย

พร้อมกันนี้ ยังเน้นการทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล ในช่องทางใหม่ให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ทั้งยังส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย ด้วยการการนำ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์หา Customer Insights เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo