การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ ดร. ฟรังค์ – วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และภริยา ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2567
กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ดร. ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และภริยา มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24 -26 มกราคม 2567 ตามคำเชิญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและภูมิอากาศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และคณะผู้แทนภาคธุรกิจเยอรมนีร่วมอยู่ในคณะด้วย
โดยในระหว่างการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ ประธานาธิบดีฯ มีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคณะผู้แทนภาคธุรกิจฝ่ายเยอรมนี จะเข้าร่วมรับฟังนโยบายส่งเสริมการลงทุนและโอกาสทำธุรกิจในประเทศไทย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีฯ จะเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือระหว่างไทยและเยอรมนี 2 ฉบับในด้านระบบรางและวิทยาศาสตร์ และจะมีการแถลงข่าวร่วม โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีฯ และภริยาพร้อมด้วยคณะผู้แทนเยอรมัน ณ ทำเนียบรัฐบาล
ในโอกาสการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานวโรกาสให้ประธานาธิบดีฯ พร้อมด้วยภริยา เข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฯ และคณะ จะเยี่ยมชมโรงงานเมอร์เซเดซ-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ณ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ดีและความพร้อมด้านแรงงานมีฝีมือ รวมทั้งการเชื่อมโยงกับภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ประเทศไทยจึงมีศักยภาพเป็นฐานการผลิตรถยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า
ในโอกาสเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีฯ และคณะจะเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำไฮบริดที่เขื่อนสิรินธร อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยโรงงานดังกล่าวมีศักยภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าแบบไฮบริดจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำที่ใหญ่อันดับต้นของโลก ช่วยส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของไทยภายในปี ค.ศ. 2050 อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งเยี่ยมชมโครงการผลิตข้าวที่ยั่งยืนแบบครบวงจร (Inclusive Sustainable Rice Landscape Project) ณ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี และเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฯ และคณะผู้แทนเยอรมันจะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยด้วย
การเยือนครั้งนี้นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งแรก นับตั้งแต่ ดร. ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเมื่อปี 2565 ทั้งนี้ เคยมีการเยือนประเทศไทย ในระดับประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเมื่อปี 2545 ที่สำคัญเป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของผู้นำรัฐจากต่างประเทศเป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
การเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีฯ ในครั้งนี้เป็นโอกาสของฝ่ายไทยและเยอรมนีในการเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรทั้งในด้านการเมือง การขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย รวมทั้งต่อยอดความร่วมมือในมิติสำคัญต่าง ๆ บนพื้นฐานของค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนความร่วมมือเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ของโลกทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค เพื่อนำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์สู่ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เฮ!! นายกฯ บอกข่าวดี นักท่องเที่ยวไทยไปจีน ‘ฟรีวีซ่าถาวร’ เริ่ม 1 มี.ค.เป็นต้นไป
- ครม. ไฟเขียว ‘ฟรีวีซ่านักธุรกิจญี่ปุ่น’ อยู่ในไทย 30 วัน เริ่ม 1 ม.ค.67– 30 ธ.ค.69
- ‘ปานปรีย์’ หารือจีน เร่งรัดการเจรจา ยกเว้นวีซ่าไทย-จีน มุ่งสานต่อความร่วมมือระหว่างกัน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg