จากจุดเริ่มต้นในปี 2564 ของโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม โดยกลุ่ม ปตท. 7 บริษัท ที่ผนึกพลังร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจ และพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (ปี 2564-2566) การดำเนินโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม ประสบความสำเร็จผลิดอกออกผลเป็นไปตามเป้าหมาย จากการนำนวัตกรรม องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทไในกลุ่ม ปตท. ไปพัฒนา ปรับใช้ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ชุมชน อีกทั้งยังสามารถต่อยอดให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และสร้างความยั่งยืน เพื่อที่เมื่อ ปตท. ถอยออกมาแล้ว ชุมชนจะสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ล่าสุด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ได้จัดงาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 จุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน เพื่อแสดงนวัตกรรมและผลสำเร็จของโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ภายในงาน มี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทใน กลุ่ม ปตท. ผู้นำชุมชนและสมาชิกชุมชนจาก 45 พื้นที่เครือข่าย รวมถึงเยาวชนจากโครงการ Restart Thailand เข้าร่วมงาน ณ ปตท. สำนักงานใหญ่
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้มว่า จากเป้าหมายโครงการที่มุ่งรวมพลังธุรกิจกลุ่ม ปตท. เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
โครงการนี้เกิดมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ประเทศไทยเกิดปัญหาโควิด กลุ่ม ปตท. ต้องการเข้าไปร่วมช่วยแก้ปัญหาในช่วงนั้น เริ่มจากโครงการลมหายใจเดียวกัน ที่เข้าไปช่วยตรงผู้ติดเชื้อโควิด สร้างโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วย
แต่ผลกระทบจากโควิด ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะผู้ติดเชื้อ หากแต่ยังกระทบถึงสภาพเศรษฐกิจด้วย เราจึงอยากพัฒนาโครงการที่เข้าไปช่วยชุมชน จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม ซึ่งนำองค์ความรู้ของกลุ่ม ปตท. หลายบริษัทเข้าไปบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกับชาวบ้าน เพื่อยกระดับพื้นฐานเศรษฐกิจของขุมชน
ทั้งนี้ ได้มีการนำนวัตกรรม องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทมาพัฒนาชุมชนเครือข่าย 45 ชุมชน ใน 29 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทชุมชนใน 3 ด้านประกอบด้วย
- Smart Farming ยกระดับการเกษตรด้วยนวัตกรรมให้ผลผลิตที่มีคุณภาพในปริมาณที่สูงขึ้น
- Smart Marketing การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยการแปรรูปและสร้างมาตรฐานให้ผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่ชุมชน
- Community-Based Tourism ส่งเสริมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
จนถึงปัจจุบัน การดำเนินโครงการฯ เป็นไปตามเป้าหมาย ทุกชุมชนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 10% จากฐานรายได้เดิม มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนรวม 45 รายการ พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวโดยชุมชนจำนวน 6 พื้นที่ รวมถึงชุมชนมีทักษะและศักยภาพที่สามารถดำเนินการและพึ่งพาตนเองได้
ขณะเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ยังเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการว่างงาน โดยจ้างบัณฑิตจบใหม่มาเป็นแนวร่วมผ่านโครงการ Restart Thailand กว่า 280 อัตรา เพื่อให้เป็นพลังร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ พัฒนาและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชุมชนบ้านเกิด
ที่สำคัญเป็นโอกาสให้เยาวชนที่จบใหม่และอยู่ในพื้นที่โครงการฯ ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับท้องถิ่น และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากกลุ่ม ปตท. นำไปพัฒนาพื้นที่บ้านเกิด นับเป็นผลสำเร็จของการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ ให้ชุมชนในพื้นที่สามารถต่อยอด และพึ่งพาตนเองต่อไปได้
การจัดงาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 ครั้งนี้ จึงเป็นการสรุปผลสำเร็จของโครงการฯ ที่ได้ดำเนินมาตลอดเป็นระยะเวลา 3 ปี รวมถึงเป็นการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ของ กลุ่ม ปตท. และองค์ความรู้ของชุมชนที่เกิดขึ้นในโครงการฯ พัฒนาเป็น จุดเรียนรู้ 12 พื้นที่ มาจุดประกายให้ผู้ที่ร่วมงานได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อขยายพื้นที่สร้างรอยยิ้มให้กับชุมชนอื่น ๆ ได้ต่อไป เพราะทุกชุมชนคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ
งาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 จุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2566 โดยมีการจัดแสดงนวัตกรรมและผลสำเร็จของโครงการฯ ผ่านพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 3 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 นวัตกรรมเพื่อชุมชน โดย กลุ่ม ปตท. และพื้นที่เรียนรู้ชุมชน โซนที่ 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน และโซนที่ 3 ตลาดนัดชุมชน
กลุ่ม ปตท. จะยืนหยัดมุ่งมั่นดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ พร้อมพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โครงการนี้ยังสามารถเป็นต้นแบบให้จะทำให้หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานเอกชนอื่น ๆ ที่ต้องการจะเข้าไปช่วยชุมชนของประเทศไทย ที่สามารถนำไปต่อยอดได้อีกมาก
นายอรรถพล กล่าวปิดท้ายว่า แม้ว่าระยะเวลาการดำเนินโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม จะสิ้นสุดลง แต่เชื่อว่าองค์ความรู้ นวัตกรรม และวิถีการเกษตรครบวงจร จะยังดำเนินการและพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แม้ว่าเมื่อ ปตท. ถอยออกมาแล้ว ชุมชนจะสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และอยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ช่วยเหลือสังคมและชุมชน ผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ มากมายในหลากหลายมิติ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้มครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ที่จะช่วยสร้างรากฐานความเข้มแข็งของชุมชน ให้สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผลการดำเนินงาน ปตท.-บริษัทย่อย 9 เดือนแรก ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
- กลุ่ม ปตท. ขนทัพนวัตกรรมเพื่อโลกอนาคต ร่วมงาน 2023 Green Technology Expo
- บุญรอดฯ ผนึก ปตท.-ไออาร์พีซี พัฒนานวัตกรรมผลิตวัสดุหมุนเวียน ลดใช้ทรัพยากร
