Business

น้ำมันขึ้น ดันเงินเฟ้อ สิงหาคม 2566 เพิ่ม 0.88% หวังมาตรการรัฐลดค่าครองชีพฉุดลง

“พาณิชย์” เผยเงินเฟ้อ สิงหาคม 2566 เพิ่ม 0.88% เหตุกลุ่มพลังงานราคาพุ่ง เฉลี่ย 8 เดือน เพิ่ม 2.01% คาดแนวโน้ม กันยายนยังทรงตัวหรือปรับเพิ่มเล็กน้อย จับตามาตรการลดค่าครองชีพรัฐ ช่วยฉุดให้ลดลง 

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) หรือเงินเฟ้อ สิงหาคม 2566 เท่ากับ 108.41 เทียบกับกรกฎาคม 2566 เพิ่มขึ้น 0.55% เทียบกับเดือนสิงหาคม 2565 สูงขึ้น 0.88% เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ 0.38%

เงินเฟ้อ สิงหาคม

ทั้งนี้ มีสาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มพลังงานเป็นสำคัญ ขณะที่กลุ่มอาหารสดราคาทรงตัว ส่วนเนื้อสัตว์ และเครื่องประกอบอาหารราคาลดลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 8 เดือนของปปี 2566 (ม.ค.-ส.ค.) เพิ่มขึ้น 2.01%

สำหรับเงินเฟ้อ สิงหาคม 2566 ที่สูงขึ้น 0.88% มาจากการสูงขึ้นของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 0.98% ตามการสูงขึ้นของราคาสินค้าในหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลกเกือบทุกประเภท ยกเว้นกลุ่มดีเซลราคาปรับลดลง

นอกจากนี้ ยังรวมทั้งค่าโดยสารสาธารณะ เช่น เครื่องบิน จักรยานยนต์รับจ้าง และรถเมล์เล็ก สองแถว ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุน และค่ากระแสไฟฟ้า ราคาก๊าซหุงต้ม ค่าของใช้ส่วนบุคคล (แป้งทาผิวกาย กระดาษชำระ ยาสีฟัน) ค่าแต่งผมชายและสตรี และค่ายา (ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ไอ) ราคายังคงอยู่ระดับสูงกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง เช่น เสื้อบุรุษและสตรี เสื้อและกางเกงเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า (ตู้เย็น เตารีด เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า) สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด (ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว ไม้ถูพื้น) และหน้ากากอนามัย

พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์

ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นเพียง 0.74% ราคาชะลอตัวต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา

สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น ไข่และผลิตภัณฑ์นม (ไข่ไก่ นมสด นมถั่วเหลือง) ผักและผลไม้สด (มะนาว ขิง กระเทียม เงาะ แตงโม ส้มเขียวหวาน) เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ปริมาณผลผลิตจึงออกสู่ตลาดน้อย เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำหวาน) ข้าวสารเหนียว และอาหารสำเร็จรูป (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง)

สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง อาทิ เนื้อสุกร ไก่สด น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) มะขามเปียก และผักสดบางชนิด (ต้นหอม พริกสด ผักชี ผักคะน้า)

ในส่วนของเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน สิงหาคม 2566 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2566 และเพิ่มขึ้น 0.79% เมื่อเทียบกับเดือน สิงหาคม 2565 รวม 9 เดือนเพิ่มขึ้น 1.61%

ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน กันยายน 2566 มีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ ได้แก่ ราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้มที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

shutterstock 2119215104

ขณะเดียวกัน ยังรวมทั้งอุปสงค์ในประเทศที่อาจเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ สถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรงกว่าปีที่ผ่านมาในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ปริมาณพืชผลการเกษตรและปศุสัตว์ลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้ากลุ่มอาหารและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อยังมีปัจจัยที่เกิดจากมาตรการของภาครัฐที่คาดว่าจะออกมาในระยะอันใกล้ และส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ เช่น มาตรการลดค่าครองชีพ และการลดต้นทุนภาคการผลิตและบริการ (ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ราคาก๊าซหุงต้ม)

หากมาตรการออกมาเร็ว จะช่วยฉุดให้เงินเฟ้อลดลง และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่หากรุนแรงเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 อยู่ระหว่าง 1.0–2.0% ค่ากลาง 1.5% และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo