Business

รัฐบาล หนุน ‘ธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า’ คาดสร้างมูลค่าส่งออก 7.6 หมื่นล้าน ในปี 73

รัฐบาล หนุน “ธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า” คาดสร้างมูลค่าส่งออก 7.6 หมื่นล้าน ในปี 73 เพิ่มโอกาสการแข่งขันในอุตสาหกรรม EV

วันนี้ (30 สิงหาคม 2566) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ผลักดันการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อย่างต่อเนื่องและครบวงจร โดยธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า

ส่งออกเป็นอัน 2 ของโลกสร้างมูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทในปี 73

ไทยเป็นผู้ส่งออกยางรถยนต์รายใหญ่ในตลาดโลก โดยในปี 2565 ไทยส่งออกยางรถยนต์เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีสัดส่วนตลาดราว 7.1% ของการส่งออกยางรถยนต์ทั้งหมดของโลก รองจากจีน ที่มีสัดส่วน 20.7%

 ในส่วนของการเติบโตมูลค่าส่งออกยางรถยนต์ไฟฟ้านั้น Krungthai COMPASS คาดว่า ในปี 2573 มูลค่าส่งออกยางรถยนต์ไฟฟ้าไป 3 ตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ จีน และออสเตรเลีย จะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 76,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% CAGR จากในปี 2565 ที่มีมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4,000 ล้านบาท

ขณะที่มูลค่าตลาดยางรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศจะอยู่ที่ราว 63,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% CAGR จากในปี 2565 ที่มีมูลค่าราว 4,100 ล้านบาท

ธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า

ได้เปรียบด้านแหล่งวัตถุดิบยางพารา

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยก้าวมามีบทบาทสำคัญแถวหน้าของธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้านั้นสืบเนื่องมาจาก ความได้เปรียบด้านแหล่งวัตถุดิบของไทยในการเป็นแหล่งผลิตยางพาราที่สำคัญของโลก อีกทั้งรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างต่อเนื่อง

อาทิ การที่ไทยมีศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center – ATTRIC) เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อของไทย ไปสู่การเป็นซูเปอร์คลัสเตอร์ (Super Cluster) ตามยุทธศาสตร์ของประเทศและศักยภาพของพื้นที่ สนับสนุนให้มีการออกแบบ วิจัยพัฒนา และนวัตกรรม ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทำให้ไทยเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางการทดสอบและรับรองในภูมิภาคอาเซียน มีบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถในด้านผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อ สามารถทดสอบและรับรองได้เองในประเทศ ตั้งอยู่ ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่ 1,235 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งให้บริการตั้งแต่ปี 2562 โดยตั้งแต่เปิดให้บริการ มีผู้ประกอบการมาใช้บริการแล้วกว่า 300 ราย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่า จะช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายและลดระยะเวลาในการส่งผลิตภัณฑ์ไปทดสอบที่ต่างประเทศราว 30-50%

ธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า

เพิ่มโอกาสแข่งขันในอุตสาหกรรม EV

ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างครบวงจรเต็มรูปแบบ ในปี 2569 นอกจากนี้ ภาครัฐได้ให้สิทธิพิเศษทางภาษีแก่ผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มนี้ โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี รวมทั้งภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรที่ใช้การผลิต นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบการผลิตเพื่อส่งออกจะได้ยกเว้นภาษีอากรการนำวัตถุดิบ เช่น สารเคมีที่ใช้ในการผลิต

นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดนโยบาย และดำเนินนโยบายได้อย่างเท่าทันช่วงเวลาของกระแสการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำให้ไทยขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจยางรถยนต์ไฟฟ้า และจะช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิต การลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก รวมทั้ง เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย ยกระดับราคาสินค้าเกษตรไทยที่เป็นวัตถุดิบ รวมทั้ง จะเพิ่มโอกาสการแข่งขันให้ไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรอีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo