Business

รวมตัวยื่นฟ้อง ออลล์ อินสไปร์ 32 คดี ร้องเงินคืน คอนโดฯ สร้างไม่เสร็จตามกำหนด

ผู้เสียหายจากโครงการ ออลล์ อินสไปร์ รวมตัวยื่นฟ้องศาล 32 คดี เรียกร้องเงินคืน ฐานผิดสัญญาการก่อสร้าง เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกงเจ้าหนี้

วานนี้ (20 ก.ค. 2566) ตัวแทนผู้เสียหายที่ซื้อคอนโดมิเนียมจากโครงการ ออลล์ อินสไปร์ เดินทางมายื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง และศาลแขวงพระนครเหนือ โดยมี นายธนัช ธรรมิสกุล หัวหน้าฝ่ายพิทักษ์สิทธิบริโภค และนางสาวณัฐวดี เต็งพานิชกุล นักกฎหมาย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มาช่วยเหลือผู้เสียหาย ในการยื่นฟ้อง

ออล อินสไปร์

ทั้งนี้ เพื่อเรียกเงินคืนตามสัญญาจะซื้อจะขาย เนื่องจากผิดสัญญาก่อสร้างไม่เสร็จตามกำหนด ดังนั้น ผู้เสียหาย ที่จ่ายเงินจอง เงินดาวน์  เงินทำสัญญา เงินผ่อนแต่ละงวด ไปแล้ว ต้องการเรียกเงินคืนทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ย

นางสาวณัฐวดีบอกว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้ ดำเนินการในนามของผู้เสียหายแต่ละราย โดยมีจำเลย คือ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ฯ ที่เป็นคู่สัญญา ซึ่งการยื่นฟ้องแยกตามศาล เนื่องจากเป็นไปตามทุนทรัพย์ของผู้เสียหายแต่ละรายฟ้องที่ศาลแพ่ง จำนวน 22 คดี , และยื่นฟ้อง ที่ ศาลแขวงพระนครเหนือ จำนวน 10 คดี

การที่ผู้เสียหาย ตัดสินใจยื่นฟ้อง บริษัท ออล อินสไปร์ เพราะผู้บริหาร เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกงเจ้าหนี้ เห็นได้ชัดเจน ทั้งจากการที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ทำหนังสือไปถึงประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม 2565 ขอเชิญประชุมเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีแต่ความเพิกเฉย ไม่แม้แต่จะส่งตัวแทนมาพบกับผู้เสียหาย

กระทั่งมีผู้เสียหายบางคนรอคอยไม่ไหว ได้ร้องขอให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ช่วยพาไปถึงสำนักงานใหญ่ เลขที่ 4345 ภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค ชั้น 18 เขตบางนา กรุงเทพฯ แต่พบแค่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ที่เสนอแผนชดเชยค่าเสียหายผ่อนชำระเป็นราย งวด ต่ำสุด 1 งวด มากสุด 12 งวด ตามแต่การทำข้อตกลงของผู้เสียหายแต่ละคน

มีบางคนยอมทำตามข้อเสนอของบริษัท แต่ปรากฏว่า บริษัทก็ยังเบี้ยวหนี้ เพราะจ่ายแค่ 1 งวด แล้วหายไปเลย ไร้ช่องทางการติดต่อ

จนกระทั่ง วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 บริษัทฯ จึงได้มีหนังสือแจ้งย้ายสำนักงานแห่งใหม่ไปยัง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ จึงทราบว่า ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ เลขที่ 8/7 ซอยนวมินทร์ 85 แยก 2-5 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ ฯ

นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลจากเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ด้วยว่า บริษัท ออลล์ อินสไปร์ฯ มีรายงานเหตุผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ มียอดคงค้างตราสารหนี้ รวม 2,494.20 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มองว่าเป็นปัญหาในการฟ้องคดีแพ่ง ถึงแม้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะ และเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี แต่หากจำเลยไม่มีทรัพย์มาจ่าย ก็ทำอะไรผู้ประกอบการไม่ได้ อีกทั้งภาระยังตกเป็นของผู้เสียหาย ในฐานะโจทก์ที่ต้องไปดำเนินการหาทรัพย์ เพื่อมายื่นร้องขอบังคับคดีกับกรมบังคับคดี

ดังนั้น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อาจยื่นฟ้องคดีอาญาด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดการลงโทษผู้ประกอบการ หากบริษัทฯ มีเจตนาไม่ชำระหนี้คืนให้ผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหาย ให้โอกาสยอมรับการผ่อนชำระของบริษัทฯ มาหลายต่อหลายครั้ง

แต่เมื่อมีข่าวว่าบริษัทฯ ได้ขายโครงการดิ เอ็กเซล ลาซาล 17 ให้กับ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด แล้ว ตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 มูลค่าราคาซื้อขายรวมจำนวนทั้งสิ้น 480 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่มีการชำระเงินคืนให้กับผู้เสียหายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งเวลานี้ มีผู้เสียหายบางกลุ่มที่ยื่นฟ้องกันเองและได้รับชัยชนะ มีคำพิพากษาจากศาลแล้ว แต่ฝ่ายจำเลยกลับเพิกเฉย ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันแจ้งความคดีอาญาข้อหาฉ้อโกง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo