ฟอร์บส์ เผยผลการจัดอันดับ “50 มหาเศรษฐีไทย” ประจำปี 2566 “ตระกูลเจียรวนนท์” ยังรั้งอันดับ 1 ด้วยมูลค่าสินทรัพย์สูงถึง 1.18 ล้านล้านบาท
วันนี้ (6 ก.ค.) นิตยสารฟอร์บส์ เปิดเผยการจัดอันดับ “50 มหาเศรษฐีไทย” โดยระบุว่า แม้สถานการณ์โดยรวมในไทยจะยังไม่แน่นอน แต่ความมั่งคั่งโดยรวมของ 50 มหาเศรษฐีไทย ก็เพิ่มขึ้นเกือบ 15% มาอยู่ที่ 173,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.08 ล้านล้านบาท
ฟอร์บส์ ระบุว่า ตระกูลเจียรวนนท์ แห่งกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ยังคงครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปีนี้ โดยการควบรวมกิจการ “ทรู” เข้ากับคู่แข่งอย่าง “ดีแทค” ได้เสร็จสิ้นลงด้วยดี ทำให้เกิดผลประโยชน์มหาศาล ความมั่งคั่งของ 4 พี่น้อง ธนินท์ สุเมธ จรัญ และมนตรี ผู้ถึงแก่กรรมไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 รวมถึงคนในครอบครัวเจียรวนนท์ รวมกันแล้วเพิ่มขึ้น 7,500 ล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 34,000 ล้านดอลลาร์
ปีนี้ ยังเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับเครื่องดื่ม Red Bull ซึ่งขายได้ราว 11,600 ล้านกระป๋องทั่วโลก มีบันทึกรายได้กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว เป็นแรงพลังที่นำให้ เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว ยังคงรั้งมหาเศรษฐีอันดับสองด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 33,400 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7,000 ล้านดอลลาร์ และสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัว
โดยรวมแล้ว มีมหาเศรษฐีไทย 21 คนที่ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา รวมถึง มหาเศรษฐี 2 รายที่มีความร่ำรวยเพิ่มขึ้น ผลจากการกลับมาของนักช้อปต่างชาติ คนแรกคือ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว ซึ่งทำธุรกิจสินค้าปลอดภาษี คิง พาวเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล โดยความมั่งคั่งของอัยยวัฒน์ และครอบครัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวมาอยู่ที่ 3,500 ล้านดอลลาร์ กลับมาติดอยู่ใน 10 อันดับแรกอีกครั้งหนึ่ง ในลำดับที่ 8
ส่วนมหาเศรษฐีอีกรายหนึ่ง ที่ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว คือ ศุภลักษณ์ อัมพุช ผู้ปกครองอาณาจักรค้าปลีกของครอบครัวอย่าง เดอะ มอลล์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายรวมถึง สยาม พารากอน และ เอ็มควอเทียร์ โดยเธอและครอบครัวมีความมั่งคั่ง 2,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากเดิมถึง 2 เท่า
การกลับมาของกำลังซื้อของธุรกิจค้าปลีกยังได้พาสองมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้าสู่ทำเนียบคนแรกคือ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ครอบครัวของเขาถือหุ้นใน เดอะ มอลล์ กรุ๊ป และธุรกิจอื่น ๆ ทำให้เขาติดอยู่ในอันดับ 24 ด้วยทรัพย์สิน 1,400 ล้านดอลลาร์
อีกรายหนึ่งคือ อนันท์ รักอริยะพงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องดื่มที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เซ็ปเป้ อยู่ที่อันดับ 50 กับมูลค่าทรัพย์สิน 590 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทของพวกเขามาไกลจากจุดเริ่มต้นในการขายขนมแบบไทย ๆ และคุกกี้เมื่อ 50 ปีก่อน โดยตั้งชื่อแบรนด์ว่าปิยจิต ตามชื่อลูกสาว ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทอยู่ในขณะนี้
การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ยังสร้างผลประโยชน์ให้อีก 2 มหาเศรษฐี คือ วานิช ไชยวรรณ ผู้มากด้วยประสบการณ์ในวงการประกัน โดย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ของเขา เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมา ในการทำไอพีโอครั้งใหญ่สุดของประเทศ ในปี 2565 ทำให้เขามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 30% มาอยู่ที่ 3,900ล้านดอลลาร์
คนที่ 2 คือ ชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ ที่ถึงแก่กรรมเมื่อ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้หวนคืนสู่ทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีที่รวยสุดในไทย หลังห่างหายไป 2 ปี อานิสงส์จากการที่กลุ่มบริษัทอาหาร เบทาโกร ของเขา ทำไอพีโอเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ฟอร์บส์ บอกด้วยว่า การจัดอันดับในปีนี้ มีมหาเศรษฐี 22 ราย ที่มีความมั่งคั่งลดลง โดยมีนักธุรกิจสี ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงมากที่สุด เกือบ 30% จากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ผลิตสายไฟ และสายเคเบิ้ล Stark ซึ่งลูกชายของเขา วนรัชต์ ถือหุ้นอยู่
10 อันดับ มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2566
อันดับ 1: ตระกูลเจียรวนนท์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์/ 1.18 ล้านล้านบาท
อันดับ 2: เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.34 หมื่นล้านดอลลาร์/ 1.16 ล้านล้านบาท
อันดับ 3: เจริญ สิริวัฒนภักดี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ / 4.73 แสนล้านบาท
อันดับ 4: ครอบครัวจิราธิวัฒน์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ / 4.32 แสนล้านบาท
อันดับ 5: สารัชถ์ รัตนาวะดี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.93 แสนล้านบาท
อันดับ 6: วานิช ไชยวรรณ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.9 พันล้านดอลลาร์/ 1.36 แสนล้านบาท
อันดับ 7: ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.8 พันล้านดอลลาร์ / 1.32 แสนล้านบาท
อันดับ 8: อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.5 พันล้านดอลลาร์ / 1.21 แสนล้านบาท
อันดับ 9: สมโภชน์ อาหุนัย และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3 พันล้านดอลลาร์ / 1.04 แสนล้านบาท
อันดับ 10: ครอบครัวโอสถานุเคราะห์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.5 พันล้านดอลลาร์ / 8.70 หมื่นล้านบาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บลูมเบิร์ก’ จัดอันดับ ‘ตระกูลเจียรวนนท์’ ขึ้นอันดับ 21 ‘มหาเศรษฐีโลก’
- เปิดอันดับมหาเศรษฐีโลกปี 66 ‘เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์’ เบอร์ 1 ‘เจ้าสัวธนินท์’ รวยสุดในไทย
- ‘ยูเออี’ นำเบอร์ 1 เป้าหมาย ‘มหาเศรษฐี’ ทั่วโลกแห่ย้ายไปอยู่-ลงทุน
