คาดยอด “ส่งออกสินค้าปศุสัตว์” ปี 66 เพิ่มอีก 10% มูลค่า 1,500 ล้านบาท หลังมาเลเซียรับรองมาตรฐานโรงงานผลิต เพิ่มขึ้นอีก 11 แห่ง
วันนี้ (2 ก.ค. 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ Department of Veterinary Services (DVS) และ Department of Islamic Development Malaysia (JAKIM) ของประเทศมาเลเซีย มีความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบ รวมถึงระบบควบคุมกระบวนการผลิตไทย
จึงให้การรับรองโรงงานผลิตสินค้าปศุสัตว์ไทยเพิ่มอีกจำนวน 11 แห่ง คาดการณ์ปี 2566 นี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปมาเลเซียเพิ่มขึ้นมหาศาล
หน่วยงานด้านปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากประเทศมาเลเซีย ได้ติดตามและประเมินกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ของไทย ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม 2566 ประเมินความสอดคล้องตามข้อกำหนด เงื่อนไข และระเบียบของประเทศมาเลเซีย
รับรองมาตรฐานโรงงานผลิตเพิ่มอีก 11 แห่ง
ซึ่งจากการประเมินมาเลเซียเชื่อมั่น และชื่นชมการทำงานของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ควบคุมดูแลการทำงานได้อย่างเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และประเทศมาเลเซียได้ให้การรับรองโรงงานผลิตสินค้าปศุสัตว์ของไทยเพิ่ม 11 แห่ง ได้แก่ โรงฆ่าไก่ 7 แห่ง โรงฆ่าเป็ด 1 แห่ง และโรงงานผลิตภัณฑ์นม 3 แห่ง จากเดิมที่รับรองไปแล้ว 37 แห่ง
จากสถานการณ์การส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ของไทยในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2566 มีมูลค่าการส่งออกสินค้าปศุสัตว์จากไทย 85,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วช่วงเวลาเดียวกัน ได้แก่ สินค้าจำพวก เนื้อไก่แช่เย็นแช่แข็ง ที่มีมูลค่าส่งออกมากกว่า 46,000 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการบริโภคของตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน และสหภาพยุโรป
คาดส่งออกเพิ่มอีก 10% มูลค่า 1,500 ล้านบาท
จากการที่หน่วยงานของประเทศมาเลเซียให้การรับรองโรงงานผลิตสินค้าปศุสัตว์เพิ่มอีกขึ้น 11 แห่ง คาดการณ์ได้ว่าเพิ่มมูลค่าการส่งออก สินค้าปศุสัตว์จากประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 1,500 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรียินดีกับการพัฒนาคุณภาพของสินค้าปศุสัตว์ไทย ตั้งแต่การควบคุมกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่การผลิต ตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้บริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ปลอดภัย ได้รับการยอมรับ ซึ่งต้องขอบคุณการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดผลเป็นความสำเร็จ สร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศคู่ค้า ส่งออกสินค้าได้มากขึ้น” นายอนุชาฯ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ความร่วมมือ 2 ประเทศ ขนส่งทางเรือ ‘แหลมฉบัง-จ้านเจียง’ ส่งออกกุ้ง-ผลไม้ไทยไปจีน ใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน
- แนะ ‘ผู้ประกอบการสิ่งทอ’ สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์อิงกระแส ‘รักษ์สิ่งแวดล้อม’ แข่งตลาดโลก หลังส่งออกหดตัว
- การยางฯ ขึ้นทะเบียน ‘เกษตรกรชาวสวนยาง’ กว่า 90% เตรียมพร้อมส่งออกตลาด EU ตาม ‘กฎหมายEUDR’