“บราเดอร์” เปิดเกมรุก ดันองค์กรสู่การเติบโตกว่า 5% ปี 2566 เดินหน้าเจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง เปิดตัวสินค้าใหม่ตลอดปี พร้อมเผยโฉมแบรนด์พรีเซนเตอร์ “พร็อกซี” ขยายฐานลูกค้านิวเจน
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การรุกตลาดครั้งใหญ่ของ บราเดอร์ ในปี 2566 จะทำให้เกิดการรับรู้และการยอมรับในแบรนด์เพิ่มมากขึ้น ทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มลูกค้าผู้บริโภค ครอบคลุมทุกกลุ่มเจนเนอเรชัน
ทั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่มนิวเจนที่ บราเดอร์ เห็นว่ามีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก จึงเน้นที่จะเจาะกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วยการใช้กลยุทธ์แบรนด์พรีเซนเตอร์มาเชื่อมและพัฒนาจากผู้บริโภคสู่ community
สำหรับความได้เปรียบของ บราเดอร์ คือการมีผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่ม print และ non-print ที่พร้อมตอบความต้องการทุกเจนเนอเรชัน ทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้หลากหลาย และปรับให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดได้ทุกกลุ่ม
ขณะที่ในปีนี้ บราเดอร์ มีการปรับโครงสร้างทีมขาย ที่พร้อมจะสนับสนุนพาร์ทเนอร์ให้ร่วมสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน และ เพื่อรับการกลับมาของตลาดเราจึงวางแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในทุกกลุ่มตลอดปี และที่สำคัญได้วางกลยุทธ์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า ด้วยการจับมือแบรนด์ระดับโลกสร้างสรรค์ collaborative product เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่สินค้าของ บราเดอร์
นางสาวทิพยา ไตรเสถียรกุล ผู้จัดการอาวุโสแผนกธุรกิจเครื่องพิมพ์ บราเดอร์ฯ กล่าวถึงตลาดเครื่องพิมพ์ในไทยว่า ภาพรวมยังคงทรงตัว ดังนั้น การที่ บราเดอร์ จะเติบโตได้ จะต้องขยายส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มมากขึ้นด้วยการวางแผนขยายฐานกลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียลให้เข้มข้นยิ่งขึ้น สร้างสรรค์โปรแกรมการใช้งานที่เพิ่มความสะดวกและความคุ้มค่าเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าในระยะยาว
เช่นเดียวกับกลุ่มตลาดรีเทล ที่บราเดอร์ได้รุกตลาดอย่างเต็มที่ในปีที่ผ่านมา ทั้งยังนำเสนอสินค้าใหม่ที่เพิ่มศักยภาพด้านคุณภาพการพิมพ์สู่ตลาด เพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีคุณภาพที่สุดสู่ตลาด ซึ่งในปีนี้ บราเดอร์ ก็จะสานต่อกลยุทธ์ดังกล่าวในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้มากขึ้น ยิ่งในปีนี้ บราเดอร์ มีแบรนด์พรีเซนเตอร์ PROXIE (พร็อกซี) ก็ยิ่งทำให้ง่ายต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์สู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
จากรายงานของ จีเอฟเค (GFK) เกี่ยวกับตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องพิมพ์ในปี 2565 ระบุว่า บราเดอร์ครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 47.8%, กลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์อยู่ที่ 27.7%, กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 51.5%, กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์อยู่ที่ 37.3% และกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์อยู่ที่ 23.4%
หากวิเคราะห์ถึงกระแสนิยมด้านการพิมพ์ ณ ปัจจุบันพบว่า ความต้องการในแบบ print on demand หรือ manage print service ยังคงเป็นกระแสที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียล และเป็นสิ่งที่ บราเดอร์ ให้ความสำคัญมาตลอด และยังคงเน้นเพื่อการเติบโตต่อไปในปีนี้
นายพงษ์พันธ์ สุระวัฒน์เจริญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขยายธุรกิจ บราเดอร์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บราเดอร์ ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองต่อเทรนด์ดังกล่าวได้อย่างดี โดยความสำเร็จของ บราเดอร์ คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถก้าวสู่การเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ผู้นำในทุกกลุ่มตลาด non-print โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล GTX ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 80%
ด้านแผนการขยายส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้ จะสอดคล้องไปกับแผนแม่บทขององค์กร ที่เน้นขยายตลาดสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และการนำศักยภาพของสินค้าบราเดอร์มารวมกันในรูปแบบโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัวที่สุด นอกจากนี้ บราเดอร์ ยังวางแผนที่จะนำเข้าสินค้าใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่มีคุณภาพให้แก่กลุ่มตลาดคอมเมอร์เชียลและอินดัสเตรียล เพื่อเพิ่มโอกาสการขายให้มากขึ้นด้วย
พร้อมกันนี้ จะมุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาของผู้บริโภค เช่นการเปิดตัว Brother AirSure เครื่องดักจับฝุ่นและละอองฝอยในอากาศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ขององค์กรชั้นนำ นับเป็นการขยายธุรกิจสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพเป็นครั้งแรกในไทย
ขณะที่นายพีรพงศ์ พรประมินทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บราเดอร์ฯ เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาโครงสร้างทีมขาย ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียลเป็นหลัก ครอบคลุมทั้งการจำหน่ายผ่านพาร์ทเนอร์ตัวแทนขาย ที่ในปีนี้บราเดอร์ได้เดินหน้าขยายศักยภาพของตัวแทนขายในทุกด้าน เพิ่มโอกาสทางการขายด้วยการเสนอขายสินค้ากลุ่มใหม่ๆ ของบราเดอร์ เพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน ยังต้องการเจาะเข้าสู่กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพ อาทิ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจเฮลธ์แคร์ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจการศึกษา ฯลฯ พร้อมทั้งขยายทีมขายตอบโครงสร้างใหม่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการทำงานเชิงรุกมุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในรูปแบบโซลูชันที่ผสมผสานผ่านกลยุทธ์ Cross-Selling ประสานงานกับดีลเลอร์ในรูปแบบทีมเวิร์ค
ล่าสุด บราเดอร์ ได้เปิดตัวศิลปิน T-Pop PROXIE (พร็อกซี) ในฐานะแบรนด์พรีเซนเตอร์ เพื่อสนับสนุนแผนการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มนิวเจน ผ่านแนวคิด ไปให้สุดเวย์ LET’s bro จากปัจจุบันบราเดอร์มีสัดส่วนลูกค้านิวเจน กลุ่ม Gen Z อยู่ที่ 11% คาดปี 2566 จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้านิวเจน กลุ่มคนรุ่นใหม่ขึ้นเป็น 20%
นางสาวรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บราเดอร์ฯ กล่าวว่า การพัฒนาบริการในปีนี้ จะยังคงใช้กลยุทธ์ 4C เป็นหลักในการดำเนินงาน ประกอบด้วย
- Customer-ลูกค้า โดยจะเน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
- Channel-ช่องทางการให้บริการ ปัจจุบัน บราเดอร์ มีช่องทางการให้บริการรวม 8 ช่องทาง
- Convenience-ความสะดวกสบายในการใช้บริการ ด้วยการนำดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนา chatbot อัจฉริยะ ทั้งน้อง Care ที่ให้บริการครอบคลุมทั้งก่อนและหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง
- Community-ชุมชน โดยในปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการใน 3 กิจกรรม ประกอบด้วย Brother Care Pack บริการเสริมเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการประกันเครื่องให้สามารถใช้ง่ายได้ในระยะยาว, การรณรงค์ให้ทิ้งวัสดุการพิมพ์อย่างถูกวิธี และการส่งเสริมด้านการศึกษาพัฒนาทักษะอาชีพ
ด้านนายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและบริหาร บราเดอร์ฯ กล่าวถึงแนวทางในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมในปีงบประมาณ 2566 ว่า จะมุ่งเน้นดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวคิด ESG เพื่อการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนตอบโจทย์แผนการพัฒนา BCG ที่ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกต่างให้ความสำคัญในปัจจุบัน
สำหรับ บราเดอร์ ได้กำหนดทิศทางดำเนิน งานภายใต้แนวคิด at your side 2030 ที่มุ่งเน้นให้เกิดความชัดเจนด้านวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของการดำเนินงานเป็นสำคัญ ให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเสมอ
ในส่วนงานด้าน CSR นั้น บราเดอร์ ยังคงมุ่งส่งเสริมและคืนกลับสิ่งดีๆ สู่สังคม พร้อมทั้งช่วยรณรงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมบนโลกเพื่อความยั่งยืน โดย บราเดอร์ ได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยแบ่งออกเป็น กลยุทธ์ระยะกลาง 2030 โดยพุ่งเป้าไปที่การลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- บราเดอร์ ดึงโปรเจ็ค ‘Brother ONE’ พัฒนาใช้ในไทย สร้าง ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’
- บราเดอร์ ขอยืนหนึ่ง ‘โมโน-เลเซอร์พรินเตอร์’ ตั้งทีมเจาะองค์กร ขยายตลาดลาว
- ‘บราเดอร์’ ต่อยอดจีน-แคนาดา พัฒนา ‘เอไอแชทบอท’ ในไทย
