ครม.ขยายเวลามาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุน การใช้งานระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ อีก 3 ปี ถึง 31 ธันวาคม 2568
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (24 ม.ค. 2566) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ออกไปอีก 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (จากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อ 31 ธันวาคม 2565)
พร้อมกันนี้ ได้ออกเป็นร่างกฎหมาย รวม 2 ฉบับ คือ 1. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และ 2. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยภาษีเงินได้ ตามที่ กระทรวงการคลัง เสนอ
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และระบบ e-Withholding Tax ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหัก และนำส่งภาษีผ่านระบบ e-Withholding Tax มากขึ้น
ในปี 2565 มีผู้ประกอบการใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt เพิ่มขึ้น 32.34% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายผ่านระบบ e-Withholding Tax เพิ่มขึ้น 83.63% เมื่อเทียบกับปี 2564
สาระสำคัญของร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มีดังนี้
- ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
มีสาระสำคัญ เป็นการขยายระยะเวลามาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่าของค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไป ดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) เช่น การจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
2. ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในระบบภาษี หัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax) เช่น การจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อใช้นำส่งภาษี
3. ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) และระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax) จากผู้ให้บริการ เช่น ค่าบริการของผู้ให้บริการจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือค่าบริการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยภาษีเงินได้
มีสาระสำคัญ เป็นการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax) โดยนิติบุคคล (ไม่รวมมูลนิธิหรือสมาคม) และบุคคลธรรมดา จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่มีอัตรา 5% 3% และ 2% ลดเหลือ 1% (จากเดิมที่ลด 2%) สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินผ่านระบบ e-Withholding Tax เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ันวาคม 2568
สำหรับการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์นี้ จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลประมาณ 20 ล้านบาท แต่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ดังนี้
1. ส่งเสริมให้ภาคเอกชนใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และระบบ e-Withholding Tax อย่างต่อเนื่องและแพร่หลาย
2. ลดต้นทุนการจัดทำ การจัดเก็บเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีของภาคเอกชน
3. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e – Withholding Tax) จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น ปีละประมาณ 9,800 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนที่เพิ่มมูลค่าให้แก่ระบบเศรษฐกิจต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์’ สุดสะดวก ส่งข้อมูลออนไลน์ยิงตรงสรรพากร
- เช็กรายละเอียดด่วน!! เปิดรับสมัครสอบ ก.พ. ปี 2566 พร้อมกำหนดการสอบ
- ไฟเขียวขยายใช้ e-Withholding Tax ได้ ลดภาษีหัก ณ ที่จ่าย ถึงปี 65