General

รวบสองผัวเมียหลานสาว เจ้าของแหนมชื่อดัง ทุจริตเงินบริษัท เกือบ 400 ล้าน

จับหลานสาว-หลานเขย บริษัทแหนมชื่อดัง ทุจริตเงินบริษัทเข้ากระเป๋าตัวเองเกือบ 400 ล้านบาทยึดทรัพย์สินเพียบ

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.กรพงศ์ วงษาลังการ, พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ, พ.ต.ต.เอื้ออังกูร ชินโชติธีรนันท์, พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 และ 2 บก.ปอท. และ ปปง. กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 7 แห่ง ใน จังหวัดปทุมธานี 5 จุด, จังหวัดนครนายก 1 จุด และ จังหวัดนครราชสีมาอีก 1 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันทุจริตบริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง ความเสียหาย 400 ล้านบาท

แหนม

เป้าหมายจุดสำคัญอยู่ที่บ้านพักของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี บ้านพักของ นายธชธร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” และ นางสาวนภษร หรือ ไข่มุก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ลักทรัพย์นายจ้าง, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี

พบเป็นบ้านหรูสองชั้นขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด แต่มีการเปิดประตูรั้วทิ้งไว้อย่างผิดปกติ จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบบุคคลใดอยู่ภายในบ้านพัก จึงเร่งสืบหาเบาะแสจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองขับรถออกจากบ้านพักไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อมุ่งหน้าเดินทางไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดแม่ของ นางสาวนภษร ที่วัดแห่งหนึ่ง ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จึงประสานกำลังตำรวจทางหลวงจัดกำลังเร่งไล่ล่าติดตามจนสามารถเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บริเวณลานจอดรถของวัดดังกล่าว

ภาพถ่ายหน้าจอ 2567 05 08 เวลา 12.58.12

ส่วนการเข้าตรวจค้นบ้านพักอีกหลังที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง อำเภอธัญบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของพี่สาว นางสาวนภษร เพื่อสืบหาทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิด พบรถหรู ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นคาเยนน์ ของ นางสาวนภษร จอดเก็บไว้ในโรงจอดรถ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 เจ้าของบริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปชื่อดัง ก่อตั้งมานานกว่า 40 ปี ได้ตรวจพบความผิดปกติภายในบริษัท ที่ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีทุจริตเงินของบริษัท จึงส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ กก.2 บก.ป. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนมีการจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเรื่อยมา จนกระทั่งทราบว่า นาสาวนภษร หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของเจ้าของบริษัท ที่มอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินและบัญชีรายรับ-รายจ่าย เนื่องจากไว้ใจเพราะเป็นลูกหลานแท้ๆ แต่กลับเป็นผู้ทุจริตลักทรัพย์เงินของบริษัทเสียเอง

จากการสืบสวนตำรวจพบหลักฐานว่า นางสาวนภษร มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัท และนำเช็คของบริษัทที่ออกไว้ให้ชำระค่าสินค้าแก่บริษัทคู่ค้า โอนมาเข้าบัญชีส่วนตัว รวมทั้งเบิกเงินสดตามรายการใบแจ้งหนี้ของบริษัทคู่ค้า แต่ไม่ได้นำไปจ่ายจริง ก่อนจะนำเงินมาเข้ากระเป๋าตัวเอง

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า นางสาวนภษรเริ่มทุจริตมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2566 รวมกว่า 1,000 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 396,229,584 บาท ก่อนจะยักย้ายถ่ายเทเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น ที่ดินแปลงใหญ่ในพื้นที่ จังหวัดนครนายก บ้านและรถยนต์หรู รวมถึงทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งทรัพย์สินบางส่วนมีชื่อนายธชธร สามีเป็นผู้ครอบครอง จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

ทั้งนี้ นอกจากจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายได้แล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิดหลายรายการ โดยเฉพาะบ้านพัก โฉนดที่ดิน และ รถหรูยี่ห้อต่างๆหลายคัน ก่อนนำมาตรวจสอบที่ไปที่มาของการได้มาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ให้ชัดเจนต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo