ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ รุจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล พร้อมถือแฟ้มนโยบายพรรคและหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
นายอุตตม กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ดักรอด้านหน้าทำเนียบเพียงสั้นๆ ว่า เป็นสินสอดที่มาสู่ขอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้มาอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค ซึ่งแฟ้มที่นำมาด้วยนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร
โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวทักทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า วันนี้ท่าทางเป็นนักการเมืองกันเต็มตัวเลยดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากวันนั้นที่มาลาออก ในการประชุม ครม.ก็หายกันไป 4 คน ก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะทำงานร่วมกันมาตลอด พวกท่านก็รู้ว่าจากนี้ต้องทำอย่างไร วันนี้ก็ไปทำงานการเมืองแล้ว ต้องทำกันเอง
ในส่วนของรัฐบาลก็ทำหน้าที่รัฐบาลแยกส่วนกันให้ได้ ตนพร้อมจะพบปะพูดคุยไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตาม อะไรคุยกันได้อะไรคุยกันไม่ได้ ก็อยากจะขอร้องทุกพรรค ถ้าต่างคนต่างพูดกันมันจะเกิดความไขว้เขวกันไปหมด ปัญหาก็จะตามมา รัฐบาลหน้าก็จะเกิดปัญหาอีก ทำงานกันไม่ได้ ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก คาดหวังทุกพรรคในเรื่องการสร้างความปรองดอง เป็นพรรคแห่งความสมานฉันท์และความสามัคคี ทุกคนสามารถพูดคุยกับพลังประชารัฐได้
การหาเสียงก็ขอระวังกัน เพราะพวกท่านเป็นรัฐบาลมาก่อน มันอาจจะกระทบกระทั่งกันได้ ขอให้พยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ต้องรู้ว่าวันนี้บ้านเมืองเราอยู่ตรงไหนและควรเดินไปทิศทางใด ต้องช่วยแก้ไขกันรัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันคิดและหาวิธีการที่เหมาะสม อย่าไปบอกว่าทำอย่างนี้ได้เลยมันอันตราย การแก้ไขปัญหามันต้องดูในภาพรวม จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมพูดไปเสียนานมาทำอะไรกัน คุยซะเพลิน”
นายอุตตม ยื่นหนังสือนโยบายพรรคพลังประชารัฐให้กับพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกับระบุว่ามีนโยบายเป็นรูปธรรมมาก มีเรื่องการปฏิรูปด้วย ในนามของพรรคพลังประชารัฐ อยากเชิญท่านนายกฯ และขอเสนอนโยบายให้ท่านได้พิจารณา พล.อ.ประยุทธ์ เปิดดู พร้อมถามว่าพรรคพลังประชารัฐได้คุยกับพรรคอื่นๆบ้างหรือไม่ เขาทำแบบที่พรรคพลังประชารัฐทำหรือเปล่า
ขณะที่นายสุวิทย์ กล่าวว่าวันนี้ยังไม่ได้เริ่มแต่มีแนวคิด นายสนธิรัตน์ กล่าวว่านโยบายของพรรคพลังประชารัฐเป็นรูปธรรมที่สุด ตรงกับสิ่งที่นายกฯคิด จึงได้มาเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับทั้ง 4 คนว่า “มั่นใจแล้วนะ” ทั้ง 4 คนตอบว่า“มั่นใจ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าตื้นตัน ขอบคุณทุกคน จะรับไว้พิจารณา ยังมีเวลาอีกหลายวันอยู่ ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ใช่ไหม ตัดสินใจอย่างไรจะตอบกลับไป หลายพรรคก็มีการพูดจา ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนใครจะมาพบก็อนุญาตให้พบได้
ในการพูดคุยครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 17.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาล
หลังหารือร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ ทางนายอุตตม ให้สัมภาษณ์ ว่าบรรยากาศการพูดคุยวันนี้ดีมาก เรานำเอกสารสรุปนโยบายและเอกสารความเป็นมาของพรรคมาเสนอให้นายกฯ ประกอบการพิจาณา นายกฯ รับเรื่องไว้และได้เปิดนโยบายดู พร้อมบอกว่าขอไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ท่านพร้อมก็จะให้คำตอบ
โดยนายกฯ ฝากประเด็นสำคัญคือ การทำการเมืองขอให้สร้างสรรค์ เน้นการปรองดอง การแข่งขันย่อมมีเกือบทุกพรรค แต่อยากเห็นการทำการเมืองของทุกพรรคเน้นประโยชน์ของประชาชนสูงสุด แข่งขันกันในกฎเกณฑ์กติกา
เมื่อถามว่าฟังแล้วแนวโน้มพล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราตอบในส่วนของนายกฯ ไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเราคาดว่านายกฯ จะพิจารณารับคำเชิญของพรรค ถามต่อว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับเทียบเชิญในบัญชีนายกฯ จะมีการดำเนินการอย่างไร นายอุตตมกล่าวว่าอย่าเพิ่งไปพูดว่า นายกฯจะไม่รับ พรรคมีความพร้อมสำหรับทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้จะให้ไปพูดก่อนคงไม่เหมาะสม ต้องให้เกียรตินายกฯ พิจารณา
เมื่อถามถึงเสียงท้วงติงที่นายกฯใช้สถานที่ราชการต้อนรับทั้ง 4 คน นายอุตตม กล่าวว่าเราได้ประสานกับคณะทำงานของนายกฯ และได้รับแจ้งให้เข้าพบเพื่อเทียบเชิญที่สถานที่ทำงาน หลังเวลาราชการ ทั้งนี้นายกฯยังได้ฝากบอก ว่าพร้อมต้อนรับทุกพรรค ไม่ได้เจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงคิดว่าชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขายได้นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่าการเสนอผู้ที่จะเป็นนายกฯ ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งของพรรค เราต้องดูว่าบุคคลผู้นั้น เหมาะสมกับบริบทการเมืองปัจจุบันหรือไม่ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ได้รับศรัทธาจากประชาชน และมีความซื่อสัตย์ สุจริต ที่พิสูจน์ได้หรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน จึงเป็นเหตุผลที่พรรคนำเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์
ขอบคุณภาพ: ออนไลน์แนวหน้า
