กทม.เผย 5 เขตพื้นที่เสี่ยงเหตุฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน เตรียมคุมปริมาณรถเข้า-ออก ช่วงเวลาเร่งด่วน ขณะผู้ว่าฯกทม.เตรียมประกาศ 50 เขตเป็นพื้นที่ควบคุมคุณภาพอากาศ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าสืบเนื่องจากสภาพอากาศจากวันนี้ไปจนถึง 4 กุมภาพันธ์ 2562 ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าจะมีสภาพอากาศแย่ จึงได้ประกาศปิดเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้งหมด 437 แห่ง โดยออก ว.8 ด่วน ให้ปิดเรียนตั้งแต่ 12.00 น. วันนี้ – วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์
นอกจากนี้ ได้ประสานชมรมโดรน จังหวัดนครราชสีมา เดินทางมาขึ้นบินโรยน้ำผสมน้ำกากอ้อย เพื่อช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในช่วง 2 วันนี้ 31 ม.ค.-1ก.พ. โดยจะขึ้นบิน จำนวน 50 ตัว รัศมีทำการตัวละ 4 ตร.กม. ในจุดที่มีค่า PM 2.5 สูงมากๆ และเตรียมล้างถนนที่จะมีละอองน้ำสีดำปล่อยลงมาด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่าวันนี้จะออกประกาศกรุงเทพมหานคร กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ด้วยสถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ก่อตัวบริเวณกว้างจนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร 50 เขต ทั้งหมด 1,500 กว่า ตร.กม. เป็นพื้นที่รวบคุมคุณภาพอากาศ โดยจะมีมาตรการเข้มข้นเน้นจุดที่มีค่า PM 2.5 สูง ทั้งมาตรการควบคุมการจราจรต้องหารือวิธีที่เหมาะสมในการควบคุมปริมาณรถ การเผาในที่โล่ง และการก่อสร้างต่างๆ ต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายทั้งหน่วยราชการภาครัฐ เอกชน ประชาชน และเจ้าของโรงงานต่างๆ ร่วมกันในมาตรการที่จะช่วยแก้ไขให้ลดลงได้
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าได้สั่งให้สำนักการโยธาออกมาตรการควบคุมการก่อสร้าง ไม่ให้ก่อมลพิษทางอากาศ โดยจะกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมในการขออนุญาตก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐ และเอกชน รวมถึงของกทม.เอง โครงการก่อสร้างที่ทำอยู่ขณะนี้ จะสั่งการทันทีให้มีมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และให้พ่นหมอกน้ำช่วยลดฝุ่น ให้เขตเข้าไปกำกับดูแลเข้มข้น ในส่วนของประกาศพื้นที่ควบคุมคุณภาพอากาศ 50 เขตของกรุงเทพฯ จะดำเนินการเข้มข้นทุกมาตรการในจุดค่า PM 2.5 สูงสุด
สำหรับ 5 จุดสูงสุด คือ แยกถนนตก เขตบางคอแหลม ถนนพหลโยธินทั้งสาย เขตบางเขนและจตุจักร ถนนพระราม 2 ไปถึงสมุทรสาคร เขตบางขุนเทียน แยกจามจุรี เขตปทุมวัน และ ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง อาจมีการพิจารณาควบคุมปริมาณรถเข้า-ออก ในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยการจำกัดรถอย่างเหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน และไม่กระทบกับผู้ใช้รถ
