Business

อึ้ง!! 4 หุ้นใหญ่เข้าสู่โหมดขาดทุนจากที่เคยกำไร

เข้าสู่เทศกาลประกาศผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักหรือเรียลเซกเตอร์ ภายหลังจากที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2561 พบว่ากำไรเพิ่มขึ้น 1.1% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ลดลง 23.6% จากไตรมาส 3/2561 และถือว่าผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่นการปรับเพิ่มค่าชดเชยกรณีพนักงานเกษียณและเลิกจ้างพนักงานที่มีอายุทำงานเกิน 20 ปีขึ้นไป เช่น  แบงก์กรุงเทพ (BBL) กรุงไทย (KTB) และเกียรตินาคิน (KKP) เป็นต้น

คาด 4 บจ.พลิกจากกำไรเป็นขาดทุน 01

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2562 บริษัทขนาดใหญ่จะทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2561ออกมา ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ประเมินผลการดำเนินงานโดยคาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะมีกำไรลดลง เนื่องจากการบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมันในระดับสูง  เพราะช่วงปลายปีก่อนราคาน้ำมันปรับลดลงแรง ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ประเมินว่า 4 หุ้นขนาดใหญ่ จะมีผลขาดทุนจากที่เคยมีกำไร

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. บัวหลวง กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมคาดว่า หุ้นขนาดใหญ่จะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2561 ประกอบด้วย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ  DTAC จะรายงานวันที่ 28 มกราคม 2562 บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ,บริษัท บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC  บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW คาดว่าจะรายงานผลประกอบการ วันที่ 30 มกราคม 2562  และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)หรือ THCOM  รายงานวันที่ 31 มกราคม 2562

นอกจากนี้ได้คาดการณ์หุ้นกลุ่มพลังงานในไตรมาส 4 ปี 2561 จะปรับลดลงเพราะผลขาดทุนจากการบันทึกขาดทุนสต็อกน้้ำ( Inventory loss ) โดยหุ้นที่ฝ่ายวิจัยศึกษา  มี BANPU, PTT, PTTEP, BCP, IRPC, SPRC, และ TOP คาดว่าจะรายงานกำไร 2.9 หมื่นล้านบาท ลดลง 53% จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 45% จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561 แต่หากดูกำไรหลัก คาดว่า PTTEP จะเป็นตัวที่กำไรโตดีสุด และ BANPU กำไรคาดโตดีเช่นกัน ในทางตรงข้าม PTT กำไรจะอ่อนลง

สำหรับไตรมาส 1 ปี 2562 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรจะดีไตรมาส 4 ปี 2561 มากโดยเฉพาะ PTTEP และแนวโน้มค่าการกลั่นเราเชื่อว่าระดับปัจจุบันที่ 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นระดับที่ต่ำเกินความจริง และน่าจะได้เห็นการรีบาวด์ โดยเลือก PTTEP และ TOP เป็นหุ้นเด่น

บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า บริษัทที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2561 พลิกมาขาดทุน ประกอบด้วย บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)หรือ IRPC และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP เนื่องจากการบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในระดับสูง

ขณะที่ บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC จากการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ เพื่อยุติข้อพิพาทกับ CAT ราว 6.8 พันล้านบาท และบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK จากรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลง และมีการบันทึกค่าตัดจำหน่ายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาเอเชียนเกมส์เต็มไตรมาส

สำหรับบริษัทที่คาดว่ากำไรจะเติบโตทั้งไตรมาส 4 ปี 2561 และไตรมาส 3 ปี 2561 ได้แก่ PTTEP คาดเติบโต 13.3% จากงวดเดียวกันปีก่อนและ 2.9% จากไตรมาส 3 ปี 2561 เนื่องจากปริมาณและราคาขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น และต้นทุนที่ลดลง แม้จะมีค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ของโครงการมอนทารามากดดันก็ตาม

ขณะที่ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT  คาดเติบโต 2.6% จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 6.7% จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561 ซึ่งจะหนุนจากยอดขายกลุ่มลูกค้าโครงการ และ Modern Trade ขยายตัวสูงและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น

หุ้น6

กรณีที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2561 จะเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอจากไตรมาส 3 ปี 2561 ได้แก่ บริษัท CPF  คาดเติบโต 13.9% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการขายเงินลงทุน CPALL แต่ลดลง 46.1%จากไตรมาส 3 ปี 2561 เพราะเป็นช่วง low season ของการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศ และการส่งออกไก่และกุ้งสู่ต่างประเทศ

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA คาดเติบโต 2.7% จากงวดเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 27.8% จากไตรมาส 3 ปี 2561 จากการขาดทุน Fx รวมทั้งรายได้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังลมลงหลังหมดฤดูมรสุม

บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI คาดเติบโตถึง 111.6%จากงวดเดียวปีก่อน จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 8.2% จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561 จากเงินบาทแข็งค่ากดดัน gross margin ลดลง

บริษัท บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH คาดเติบโต 10.8% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของผู้ป่วยเงินสด แต่ลดลง 17.2% จากไตรมาส 3 ปี 2561  เนื่องจากผ่านช่วง High Season ในงวดที่แล้ว และมีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น

กรณีที่คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2561 เติบโตไตรมาส 3 ปี 2561 แต่ชะลอตัวจากงวดเดียวกันปีก่อน ได้แก่  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC คาดเติบโต 3.3% จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561 ตามรายได้ค่าบริการที่คาดฟื้นตัว แต่ลดลง 8.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการทยอยรับรู้ต้นทุนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ที่ประมูลมาใหม่

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU คาดเติบโต 7.2% จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561

เนื่องจากมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิดกิจการบริษัทย่อย แต่ลดลง 2.7% yoy จากเงินบาทแข็งค่า กดดัน gross margin ลดลง

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA คาดเติบโต 260.3% จากไตรมาส 3 ปี 2561 จากการขายพื้นที่คลังสินค้าเข้ากอง REIT แต่ลดลง 23.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากฐานกำไรที่สูงเป็นประวัติการณ์ในงวดไตรมาส 4 ปี 2560

บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC คาดเติบโต 13.6% จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561 แต่ลดลง 27.7%จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มขึ้น และยอดขายมีแนวโน้มลดลงในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนแอร์รถยนต์

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO คาดเติบโตถึง 11 เท่าจากงวดไตรมาส 3 ปี 2561 จากฐานกำไรที่ต่ำมากในงวดก่อนหน้า แต่ลดลง 86.1% จากงวดเดียวปีก่อน จาก Stock Loss ที่เกิดขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบและยางมะตอยลดลงอย่างมาก

หุ้น3

นอกจากนี้ กรณีที่คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2561 ชะลอตัวทั้งจากงวดเดียวกันปีก่อน และ ไตรมาส 3 ปี 2561 ประกอบด้วย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC คาดลดลง 26.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 2.4% จากไตรมาส 3 ปี 2561 เนื่องจาก Spread ธุรกิจปิโตรเคมีที่แคบลง รวมทั้งเกิด Stock Loss ในงวดนี้

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL คาดลดลง 75.7%จากงวดเดียวกันของปีก่อน  และ 75.8% ไตรมาส 3 ปี 2561 เพราะจากการบันทึกขาดทุนสินค้าคงเหลือ และปริมาณขายคาดปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นช่วง low season และ spread ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแคบลง

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC คาดลดลง 58.1% จากงวดเดียวกัน  และ 68.7% จากไตรมาส 3 ปี 2561  จากการบันทึกขาดทุนสต๊อกน้ำมัน รวมทั้งกำไรที่ลดลงในทุกธุรกิจปิโตรเคมี โดยเฉพาะธุรกิจหลักโอเลฟินส์

รวมถึง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE คาดลดลง 5.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน  เนื่องจากงวดไตรมาส 4 ปี 2560 มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินให้กับ DIF และลดลง 25%จากงวดไตรมาส 3 ปี 2561  จากต้นทุนขายและบริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight