มีหลายพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคนเรา ที่ทำให้เกิดโรคโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะวัยทำงานด้วยแล้ว นอกจากเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมกันทั่วหน้า เพราะนั่งทำงาน และประชุมเป็นเวลานานในท่าเดิมๆ ทำให้ร่างกายขาดสมดุลแล้ว ยังมีหลายโรคถามหา ”กระเพาะอาหาร” ยังเป็นอีกโรคฮิตของคนทำงานด้วย
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ บอกว่า โรคแผลในกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยสามารถพบได้ทุกวัย แต่ปัจจุบัน พบว่าสาเหตุหลักมี 2 เรื่อง คือ
- จากการติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโรไล (Helicobacter pylori)
- รับประทานยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) รวมถึงยาต้านเกร็ดเลือด เช่น แอสไพริน
อาการ
- ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่
- อาเจียนเป็นเลือด
- ถ่ายดำ
- ภาวะโลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเกิดจากการเสียเลือดจากแผลในกระเพาะอาหาร
โรงพยาบาลราชวิถี ประสบพบเจอกับผู้ป่วยโรคนี้บ่อยๆ ซึ่ง นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ระบุว่า ปัจจุบันการวินิจฉัยภาวะแผลในกระเพาะอาหาร คือ การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้น และสามารถตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโรไลได้ด้วย
สำหรับแนวทางการรักษา คือ การให้ยาลดกรด ร่วมกับการรักษาสาเหตุ ได้แก่ การให้ยาปฏิชีวนะ หรือหยุดยาที่เป็นสาเหตุ
ข้อกังวลของโรงพยาบาลราชวิถี อยู่ตรงที่เวลานี้ ประเทศไทยมีอุบัติการณ์ของการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโรไลค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันยาแก้ปวด ก็สามารถซื้อหาได้ทั่วไป และมีผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาต้านเกร็ดเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นโรคแผลในกระเพาะอาหาร จึงเป็นภาวะที่พบได้มากขึ้น หากผู้ป่วยคนใดมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแนะนำแนวทางการรักษาต่อไป
สำหรับการป้องกันที่ดี ประกอบด้วย
- หมั่นล้างมือ
- เลือกอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด อาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูง หรือ มีไขมันมาก
- การสูบบุหรี่
- การดื่มแอลกอฮอล์