Startup

‘แกร็บ-โกเจ็ก’ เปิดศึกชิงตลาดอาเซียนปี 62

2 ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันเรียกรถรับส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “แกร็บ” และ “โกเจ็ก” มีอะไรที่เหมือนๆ กันอยู่ในหลายด้าน โดยทั้ง 2 บริษัทต่างมียอดคนดาวน์โหลดแอพถึง 100 ล้านครั้ง แถมทั้งคู่ยังสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกจำนวนหนึ่งมาได้เหมือนกัน ทำให้ทั้ง 2 บริษัทกลายเป็นสตาร์ทอัพ ที่มีมูลค่ามากสุดในภูมิภาคนี้ แม้กระทั่งซีอีโอก็จบการศึกษามาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเหมือนๆ กัน

แกร็บ vs 0. โกเจ็ก 01

ในปี 2562 ทั้ง 2 บริษัทมีแนวโน้มที่จะเปิดศึกกันโดยตรง จากการมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาค ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงบริการรถรับส่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้า

แกร็บ ซึ่งมีฐานการดำเนินงานอยู่ในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 และขยายธุรกิจออกไปใน 8 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการเข้าซื้อกิจการธุรกิจในภูมิภาคนี้ของอูเบอร์ ผู้บุกเบิกบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชัน สัญชาติอเมริกัน

แต่ โกเจ็ก ก็สร้างธุรกิจขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากที่ก่อตั้งขึ้นในอินโดนีเซีย เมื่อปี 2553 บริษัทก็เพิ่งขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และเพียงไม่กี่เดือน หลังประกาศลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาค โกเจ็กก็รุกเข้าไปในตลาดเวียดนาม ซึ่งต้องแข่งขันโดยตรงกับแกร็บ

โกเจ็กประกาศรุกตลาด 4 ชาติอาเซียนรวมไทย
อย่างไรก็ดี การที่โกเจ็กระมัดระวังตัวมากกว่าแกร็บ ด้านการออกไปลงทุนในต่างประเทศ  ทำให้บริษัทต้องรับมืออย่างมาก กับการตรวจสอบอุตสาหกรรมเรียกรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชันที่เพิ่มมากขึ้นของเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้โกเจ็ก โดนปฏิเสธการเข้าลงทุนจากฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะความกังวลเกี่ยวกับการมีนักธุรกิจต่างชาติเป็นเจ้าของกิจการ

แต่โกเจ็ก ก็ประสบความสำเร็จในการเปิดบริการที่ไทย ช่วงสิ้นปี 2562 ถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า ถึงจะมีโอกาสน้อย แต่ก็ไม่ได้บั่นทอนเป้าหมายของบริษัทแต่อย่างใด

ล่าสุด บริษัทก็มุ่งตรงเข้าไปท้าทายกับแกร็บโดยตรงในบ้านเกิดของฝ่ายตรงข้าม โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โกเจ็กได้ทดลองเปิดให้บริการแบบจำกัดต่อลูกค้าในสิงคโปร์ และเพิ่งจะมาเปิดให้บริการอย่างเต็มตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่่ผ่านมา (17 ม.ค.)

grab-sunday-insurtech

“เรามุ่งมั่นที่จะนำทางเลือกกลับมาสู่ตลาดเรียกรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชันในสิงคโปร์ ประเทศที่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรม และการขับเคลื่อนเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายอังเดร โซลิสโย ประธานบริหารโกเจ็กแถลง

กระนั้นก็ตาม นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม ระบุว่า โกเจ็กต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล หากต้องการที่จะผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญของแกร็บในสิงคโปร์ได้

“อาจจะเป็นเรื่องยากมากที่จะชิงส่วนแบ่งตลาด เมื่อเผชิญกับคู่แข่งที่ครองตลาดอยู่อย่าง แกร็บ เว้นแต่ว่า โกเจ็ก ที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดสิงคโปร์ จะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า” วอลเตอร์ เธไซรา นักเศรษฐศาสตร์ด้านการขนส่ง จากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ กล่าว

เขาเสริมด้วยว่า โกเจ็กจำเป็นต้องใช้คนขับจำนวนมาก ทั้งยังต้องจัดหาบริการที่มีคุณภาพสูง และยั่งยืน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า บริษัทจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่มีเงินอุดหนุนจำนวนมหาศาล ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า ความเป็นไปได้ที่โกเจ็ก จะสามารถสร้างฝูงรถจำนวนมากอย่างรวดเร็ว คือ การจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทแท็กซี่ท้องถิ่น

เหล่านักวิเคราะห์บอกด้วยว่า แม้ในขณะนี้อาจดูเหมือนว่า แกร็บอาจมีความได้เปรียบมากกว่าบริษัทอื่นๆ แต่ถ้าหากจะมีบริษัทใดที่จะขึ้นมาขวางทางการครองบัลลังก์ของแกร็บในภูมิภาคนี้ บริษัทนั้นก็จะต้องเป็นโกเจ็ก อย่างแน่นอน

Avatar photo