“สุชาติ” แจงหลัก 5 ข้อ ป้องนายทุนฮุบที่ดินทำเลทอง ยันต้องยกเครื่องกฎหมาย ส.ป.ก. ปั้น “ที่ดินทองคำ” ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้คนจนเพิ่ม
วันนี้ (9 ม.ค. ) นายสุชาติ ตันเจริญ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซี่งเป็นผู้เสนอแนวคิด “เปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นที่ดินทองคำ” หรือ “ส.ป.ก. 4.0” กล่าวอธิบายแนวคิดของเขาอีกครั้งว่า เราต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่า 30-40 ปีที่แล้วกับวันนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไปมาก สมัยนั้นที่ดินเหมาะกับการทำการเกษตร นโยบายจึงเน้นปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่มาถึงวันนี้ การทำเกษตรกรรม ทำให้เกษตรกรเป็นหนี้ วัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก.ต้องการช่วยเหลือคนจน แต่ไม่ใช่ต้องให้จนดักดานตลอดไป
“การช่วยเหลือคนจนโดยรัฐสนับสนุนให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน ก็ควรจะหาทางทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ และสามารถอยู่ดีมีสุขเพิ่มขึ้น หรือเป็นคนรวยไปเลยก็ได้ ทำไมต้องตีกรอบว่า คนที่จะได้รับที่ดิน ส.ป.ก. ต้องจนดักดาน หรือพอจะมีเงินขึ้นมา คุณสมบัติก็ขาดจะถูกยึด ส.ป.ก. คืนไป” นายสุชาติ กล่าว พร้อมกับ ระบุถึงแนวทางป้องกัน ที่ดินหลุดไปเป็นของนายทุน และต่างชาติแน่นอน
แนวทางป้องกัน 5 ข้อ
- เจ้าของกรรมสิทธิที่ดิน ยังเป็นชื่อ ส.ป.ก. อยู่ทุกตารางนิ้ว ผู้ได้รับการจัดสรรจะได้ครอบครองแค่ “ใบสลักสิทธิ์” ที่เปลี่ยนมือได้เท่านั้น
- กำหนดอำนาจหน้าที่ให้ ส.ป.ก. จำแนกที่ดิน และกำหนดอัตราภาษีแบบก้าวหน้า และค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับศักยภาพของที่ดินนั้นให้ชัดเจน
- ต้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาด ไม่ไว้หน้า ไม่ใช่แค่เอามาคืนเท่านั้น ยังต้องมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และต้องมีอัตราค่าปรับที่เหมาะสม ย้อนหลังตั้งแต่ต้นของการกระทำผิด
- พัฒนากองทุน ส.ป.ก. ให้รองรับบทบาทใหม่ในการบริหารที่ดินของ ส.ป.ก. ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ และประชาชน
- ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน กองทุน ส.ป.ก.จะเข้าไปจัดสรรให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนปี 2554 จำนวน 3.3 แสนคนได้มีที่ดินทำกิน และต้องนำที่ดินไปใช้ตามศักยภาพโดย ส.ป.ก.เข้าไปเป็นพี่เลี้ยง สำหรับรายใหม่จะต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี จึงจะสามารถเปลี่ยนมือได้
“ยืนยันว่า ข้อเสนอนี้ จะทำให้คนจนมีที่ดินทำกิน เป็นการดูแลคนจนได้มากขึ้น และดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป จึงกล้าประกาศว่า ส.ป.ก. จะเป็นที่ดินทองคำ และต้องทำให้เปลี่ยนมือได้ เพื่อรองรับศักยภาพของคน ที่จะนำไปพัฒนาในการใช้ที่ดิน ทำให้เกิดรายได้มากขึ้น ยิ่งทำให้คนที่ถือครองที่ดินร่ำรวยขึ้น เศรษฐกิจประเทศก็ดีขึ้นเป็นเงาตามตัว ประเทศชาติก็พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว”
สำหรับคนที่มีศักยภาพไม่มาก เช่นผู้สูงอายุกว่า 1 ล้านคน ที่เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ไม่มีลูกหลาน ไม่สามารถทำงานได้ กองทุน ส.ป.ก. ก็จะเข้าไปช่วยบริหารแทนให้เกิดรายได้ เช่น อาจปลูกต้นไม้มีค่า ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบายรัฐได้ป่า ประชาได้ทรัพย์สินและที่ดินทำกิน
“ขอย้ำว่าในฐานะแกนนำ ส.ส.กลุ่ม 16 ที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณี ส.ป.ก.4-01 รับทราบเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 หรือกฎหมาย ส.ป.ก. เป็นอย่างดี และเรื่องนี้ได้กลายเป็นฝันร้ายของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่สุดท้ายต้องยุบสภาหนีการลงมติ เพราะปล่อยให้คนรวยได้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. เช่น จังหวัดภูเก็ต”
นายสชาติ กล่าวย้ำว่าต้องขอขอบคุณที่นำเรื่องนี้กลับมาให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความเลวร้ายของ ส.ป.ก.4-01 ในอดีต ที่เป็นผลพวงมาถึงปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลชุดนี้ต้องไล่ตามยึดที่ ส.ป.ก. จากคนรวยในหลายจังหวัด เช่น อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เชียงใหม่ เชียงราย เลย เป็นต้น เมื่อเรารู้ปัญหานี้ เป็นที่มาให้ตนเสนอว่าต้องแก้กฎหมายโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้พบทางออกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสำคัญในครั้งนี้
“เรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองเลิกเล่นการเมืองแบบเก่า หรือสาดโคลน ควรหันมาช่วยกันทำเพื่อประชาชน และประเทศชาติดีกว่า วันนี้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนการทำงานการเมืองเพื่อบ้านเมืองกันแล้ว” นายสุชาติ กล่าว