Economics

สิ้น พ.ย. นิติบุคคลยื่นขอตั้งพิโกไฟแนนซ์ 805 ราย

“สศค.” เผยสิ้นเดือน พ.ย. นิติบุคคลยื่นขอตั้งพิโกไฟแนนซ์ 805 รายใน 73 จังหวัด อนุญาตแล้ว 412 ราย ใน 65 จังหวัด

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประจำเดือนพฤศจิกายน 2561 พบว่า สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่กระทรวงการคลังเปิดให้ผู้สนใจยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์เป็นต้นมาจนถึง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2561 มีนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตทั้งสิ้น 805 ราย ใน 73 จังหวัด

พรชัย ฐีระเวช

โดยจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขออนุญาตมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา 71 ราย กรุงเทพมหานคร 63 ราย ร้อยเอ็ดและขอนแก่น 39 ราย ทั้งนี้มีจำนวนที่คืนคำขออนุญาตทั้งสิ้น 101 ราย ใน 47 จังหวัด จึงมีนิติบุคคลที่ยื่นคำขออนุญาตสุทธิ 704 ราย ใน 73 จังหวัด และมีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจแล้ว 412 ราย ใน 65 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้ได้เปิดดำเนินการแล้ว 350 ราย ใน 64 จังหวัด และมีผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อแล้ว 336 ราย ใน 63 จังหวัด โดยผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตสามารถปล่อยสินเชื่อได้ภายในเขตจังหวัดให้แก่ผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ภายในจังหวัดนั้น ๆ วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกิน 36% ต่อปี (Effective Rate)

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2561 มียอดสินเชื่ออนุมัติสะสม 46,201 บัญชี รวมเป็นเงิน 1,278.29 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติเฉลี่ย 27,667.88 บาทต่อบัญชี ประกอบด้วย สินเชื่อแบบมีหลักประกัน 24,987 บัญชี เป็นเงิน 766.83 ล้านบาท คิดเป็น 59.99% ของจำนวนสินเชื่อที่อนุมัติ และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน 21,214 บัญชี เป็นเงิน 511.46 ล้านบาท คิดเป็น 40.01% ของจำนวนสินเชื่อที่อนุมัติ ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างรวมมีทั้งสิ้น 19,775 บัญชี คิดเป็นเงิน 570.39 ล้านบาท สำหรับสินเชื่อที่ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน มีจำนวน 1,793 บัญชี คิดเป็นเงิน 56.36 ล้านบาท หรือ 9.88% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม และมีสินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน (NPL) จำนวน 477 บัญชี คิดเป็นเงิน 16.65 ล้านบาท หรือ 2.92% ของสินเชื่อคงค้างรวม

k3
ภาพจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้อนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินให้เป็นทางเลือกของประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบแทนหนี้นอกระบบ รายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.85% ต่อเดือน โดยได้เร่งกระจายความช่วยเหลือด้านสินเชื่อดังกล่าวแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2561 มีการอนุมัติสินเชื่อรวม 409,761 ราย เป็นเงิน 18,376.62 ล้านบาท จำแนกเป็นสินเชื่อที่อนุมัติแก่ประชาชนทั่วไป 379,118 ราย เป็นเงิน 17,051.32 ล้านบาท และสินเชื่อที่อนุมัติแก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ที่มีหนี้นอกระบบ จำนวน 30,643 ราย เป็นเงิน 1,325.30 ล้านบาท

สำหรับการดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยังคงกวดขันจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและผู้ติดตามทวงถามหนี้โดยวิธีการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการสะสมนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นมาถึง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2561 มีการจับกุมผู้กระทำผิดรวมทั้งสิ้น 4,501 คน

Avatar photo