กฟผ. – ฟฟล. สปป.ลาว ปรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 -เซเสดใหม่ ปรับค่าไฟฟ้าใหม่ปีต่อปี สะท้อนต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง
วันนี้ (14 ธันวาคม 2561) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประเทศไทย และ ฯพณฯ ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ ท่านบุนอุ้ม สีวันเพ็ง ผู้อำนวยการใหญ่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเซเสด ฉบับใหม่ ณ หอประชุมแห่งชาตินครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
นายวิบูลย์ กล่าวว่า เอ็มโอยูครั้งนี้ เกิดจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเซเสด ฉบับเดิมครบกำหนดอายุสัญญา โดย ฟฟล.ได้ขอเสนอปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ สำหรับทั้งสองโครงการให้สะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง ตามที่มีการซื้อขายไฟฟ้ากันในปัจจุบัน
สาระสำคัญ คือ อัตราค่าไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างเจรจา และ พิจารณาเสนอขออนุมัติฝ่ายนโยบายที่จะใช้ทำสัญญากับ ฟฟล. สำหรับปี 2562 นั้น ปริมาณไฟฟ้าที่ กฟผ. จะรับซื้อจาก ฟฟล. มีอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงความต้องการไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เท่ากับ 1.80 บาทต่อหน่วย และในช่วงนอกพีค (ออกพีค) เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.63 บาทต่อหน่วย
สำหรับปริมาณไฟฟ้าที่ ฟฟล. รับซื้อจาก กฟผ. ให้มีอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงพีคเท่ากับ 1.90 บาทต่อหน่วย และในช่วงออฟพีคเท่ากับ 1.63 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.73 บาทต่อหน่วย โดยอัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นอัตราที่ใช้ระหว่าง กฟผ. และ ฟฟล. จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้ อัตราค่าไฟฟ้าใดที่จะใช้ระหว่างกันตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ และตลอดช่วงเวลาการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ จะต้องอยู่ในอัตราระหว่างอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่ำสุดที่อัตราค่าไฟฟ้าตามสัญญาฯ ปัจจุบัน 1.33 บาทต่อหน่วย และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสูงสุดไม่เกินราคาเฉลี่ยไพรมารี เอ็นเนอร์จี (Primary Energy) ที่รับซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำของโรงไฟฟ้าเอกชนอิสระ ( ไอพีพี ) ใน สปป. ลาว 2.10 บาทต่อหน่วย
สำหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 ฉบับเดิม ปี 2517 ถึงปัจจุบัน รวมโครงการน้ำลึก และโครงการน้ำเทิน 2 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาด้วย มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ณ เวลานั้น ซึ่งในช่วงพีคเท่ากับ 1.60 บาทต่อหน่วย และในช่วงออฟพีคเท่ากับ 1.20 บาทต่อหน่วย
และสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าเซเสด ฉบับเดิม ปี 2548 ถึงปัจจุบัน รวมโครงการเซเสด 2 และโครงการห้วยลำพันใหญ่ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ณ เวลานั้น ซึ่งในช่วงพีคเท่ากับ 1.60 บาทต่อหน่วย และในช่วงออฟพีคเท่ากับ 1.20 บาทต่อหน่วย
“การลงนามทั้งสองฝ่ายในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่นี้ เป็นการปรับสัญญาในช่วงปลายอายุของโรงไฟฟ้า จากเดิมกำหนดสัญญาระยะยาวตลอดอายุสัญญา เป็นการปรับราคาปีต่อปี เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยนำต้นทุน 6 เดือนของปีก่อนมาคำนวณราคาในปีต่อไป และทำการเจรจา ซึ่งแนวทางนี้จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ส่วนจะใช้กับทุกๆโรงไฟฟ้าหลังจากนี้หรือไม่ ขึ้นอยู๋กับนโยบาย” นายวิบูลย์ กล่าว
