โนวาวิด้าขานรับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์เมดิคัลฮับ เปิด “ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก” เจาะตลาดจีน ปี 62 เดินหน้าเวชศาสตร์ชะลอวัย บุกตลาดตะวันออกกลาง-CLMV
ทันทีที่รัฐบาลประกาศยุทธศาสตร์พัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (ปี 2559-2568) และมุ่งสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness) ของโลกภายใน 10 ปี แวดวงตลาด ท่องเที่ยว เชิงสุขภาพของไทยก็เดินหน้าอย่างคึกคัก ไม่เพียงเพราะตลาดนี้มีเม็ดเงินกว่า 1.6 ล้านล้านบาท จากตัวเลขการศึกษาของ เดอะโกลบอล เวลล์เนส ทัวริซึ่ม อีโคโนมี (Global Wellness Tourism Economy 2017) แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย เมื่อภาครัฐ ติดเครื่องยนต์ เอกชนก็เดินหน้าเต็มสูบ ทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลและกลุ่มธุรกิจการดูแลสุขภาพด้วย แพทย์ทางเลือก
นายทวีศักดิ์ วยากรณ์วิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนวาวิด้า อินเทอเกรทีฟ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าวว่า โนวาวิด้า คือ ศูนย์บูรณาการทางการแพทย์ ที่มุ่งตอบโจทย์การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ของภาครัฐในการบุกตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ที่ผ่านมาภาคท่องเที่ยวด้าน Medical & Wellness ของไทยเติบโตมาก เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย และประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ในการเข้ามารับบริการทางการแพทย์ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีสถานพยาบาลของไทยได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) หลายแห่ง
ด้วยบริการทางการแพทย์ของไทยมีชื่อเสียง ทั้งด้านคุณภาพและบริการ ผลักดันการเติบโตของกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์ทางเลือกไปพร้อมกัน เพื่อให้บริการกับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครบวงจร
โนวาวิด้า เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจแพทย์ ทางเลือกเปิดในรูปของศูนย์บูรณาการทางการแพทย์เพื่อดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวมและชะลอวัย ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัยจากประเทศอิตาลี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Life” โดยมี ศาสตราจารย์อีวาน ตอร์เรนเต้ แพทย์ Neurologist ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Therapy) และยีนบำบัด (Gene Therapy) จากมหาวิทยาลัย มิลาน ประเทศอิตาลี เป็นแพทย์ที่ปรึกษา
โดย โนวาวิด้า เปิดให้บริการ 2 ธุรกิจบริการหลัก คือ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (Fertility Center) เพื่อช่วยคู่สมรสที่ประสบปัญหาด้านการมีบุตรให้สามารถมีบุตรได้ง่ายขึ้น ส่วนบริการที่ 2 คือ ศูนย์ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ (Anti-Aging & Cell Rejuvenation Center) ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพในระดับยีนที่ออกแบบมาสำหรับเฉพาะบุคคล (Personalize Medicine) เพื่อช่วย บำบัดฟื้นฟูผู้รับบริการให้กลับมีสุขภาพที่แข็งแรง และยังช่วยให้เกิดการชะลอวัย สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี”
ทั้งนี้ โนวาวิด้า เปิดให้บริการศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพคลัสเตอร์ใหม่คือ Fertility Tourism ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปเปิดตลาดไว้ โดยเฉพาะที่ประเทศจีน ซึ่งมีตัวเลขว่ามีคู่สมรสชาวจีนกว่า 90 ล้านคู่ ทั้งคู่สมรสใหม่และ คู่สมรสที่ต้องการลูกคนที่ 2 (หลังจากรัฐบาลจีนเปลี่ยนนโยบายอนุญาตให้มีลูกคนที่ 2)
หลังจาก โนวาวิด้า เข้าไปทำการตลาดที่จีนก็ได้รับความสนใจ และมีการติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และพบว่า คู่สมรสชาวจีนชื่นชอบการมาท่องเที่ยวประเทศไทย เพราะไทยมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยว และเป็นที่ยอมรับด้านมาตรฐานคุณภาพและบริการทางการแพทย์ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวคลัสเตอร์นี้ ททท. เคยประเมินว่าคู่สมรสแต่ละคู่จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 500,000 – 1,500,000 บาทต่อทริป ตามระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย ซึ่งโนวาวิด้าตั้งเป้าว่าจะดึงนักท่องเที่ยว คลัสเตอร์นี้ มาใช้บริการของไม่ต่ำกว่า 400 คู่ต่อปี คิดเป็นรายได้ปีละ 200 ล้านบาท
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่าที่ผ่านมา โนวาวิด้า ได้ให้บริการส่วน ศูนย์ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ (Anti-Aging & Cell Rejuvenation Center) กับคนไทยเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วย บริการด้านการดูแล สุขภาพระดับยีน ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล (Personalize Medicine) เช่น เซลล์บำบัด (Cell Therapy) โดยมีห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์มาตรฐานสูงเอง การรักษาโดยใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดโรคมะเร็ง (Immunotherapy) ด้วย CAR T cells ซึ่งวิธีนี้สามารถรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็งร่วมกับการใช้เคมีบำบัดได้
ในปี 2562 จะรุกตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นสินค้าและบริการ ที่เหมาะกับความต้องการ ของแต่ละประเทศ และจากการทำการตลาดล่วงหน้า พบว่า ตลาดจีน ให้ความสนใจเรื่องศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ การรักษาโรคมะเร็ง , ภูมิคุ้มกันบำบัด และการชะลอวัย ด้วยสเต็มเซลล์ ส่วนตลาดตะวันออกกลาง ให้ความสนใจการชะลอวัย ด้วยสเต็มเซลล์ เป็นอันดับแรก รองลงมาคือการ รักษาโรคด้วยเซลล์ต้นกำเนิด และการดูแลสุขภาพและ ความงาม ส่วนกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา,ลาว, เมียนมา,เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดเพื่อนบ้านที่อนาคตสดใส ให้ความสนใจในกลุ่มบริการด้าน ความงามเป็นอันดับแรก รองลงมาคือการดูแลสุขภาพด้วยเซลล์ต้นกำเนิด