PR News

แบรนด์จีนมาแรง! ‘ไมเดีย’ปั้นแอร์ติดท็อป 3

“โตชิบา” วางเป้าหมายดันแบรนด์แอร์ “ไมเดีย” ติดท็อป 3 ใน 5 ปี ชี้ตลาดเปิดรับแบรนด์สินค้าจีน  ส่งสินค้าใหม่ 5 ซีรีส์ เจาะตลาดปีหน้า

นายไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยปีนี้ อยู่ในช่วงฟื้นตัวและมีแนวโน้มดีขึ้น เศรษฐกิจเติบโต 4.1%  ปัจจัยหลักมาจากเรื่องการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม  การเติบโตของธุรกิจเครื่องปรับอากาศกลับไม่เติบโตตามเศรษฐกิจ โดยปีนี้ติดลบ 9.8% ปัจจัยหลัก คืออากาศไม่ร้อนตามที่คาดการณ์ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา และผู้บริโภคใช้จ่ายเงินไปกับปัจจัยที่จำเป็นด้านอื่นๆ

แอร์ ไมเดีย Midea

ขณะที่เครื่องปรับอากาศ “ไมเดีย” (Midea) จากประเทศจีน เติบโตสวนทางอยูที่ 54% ในปีนี้  ส่วนหนึ่งเพราะโตชิบา ไทยแลนด์ ได้เข้ามาดูแลแบรนด์ไมเดีย เต็มรูปแบบ ทั้งทีมบริหาร การดูแลจัดการทีม รวมถึงบริการหลังการขายที่ใช้ศูนย์บริการเดียวกับโตชิบา  ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาดมากขึ้น การนำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาจับต้องได้ รวมถึงตลาดตอบรับและเชื่อมั่นในสินค้าแบรนด์จีนมากขึ้น

สำหรับปี 2562 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.8% และปี 2563  เติบโต 3.5% จากแนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน ขณะที่คู่แข่งหลายแบรนด์ไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ทำให้โอกาสในการเติบโตของเครื่องปรับอากาศไมเดียดีขึ้น

“ปัจจัยที่เรามองว่าจะทำให้ธุรกิจเติบโต คือ การให้ความสำคัญกับสินค้า โดยเพิ่มไลน์อัพเครื่องปรับอากาศกลุ่มอินเวอร์เตอร์ใหม่ 5 ซีรีส์ กว่า 20 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย เรายังลงทุนงบการตลาดถึง 12% เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดีขึ้น ปีหน้าไมเดีย ตั้งเป้าเติบโต 74% และหวังเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศท็อป 3 ในไทยภายใน 5 ปี”

นายไบรอัน กล่าวต่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ของผู้นำแบรนด์เครื่องปรับอากาศหลายๆ แบรนด์เปลี่ยนไป หลายแบรนด์ยังคงรักษาระดับให้คงที่ ปรับลดลงไม่มากนัก ในขณะที่บางแบรนด์ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง  ผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นและตอบรับกับสินค้าแบรนด์จีนมากขึ้น  เพราะจีนเป็นผู้นำการผลิตสินค้าเกือบทุกประเภทให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก บวกกับปัจจัยหนุนของรัฐบาลและความร่วมมือไทย-จีน ที่ทำให้เกิดโปรเจค One Road One Belt หรือเส้นทางสายไหมที่จะมาเชื่อมโยงการค้าให้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และส่งผลต่อต้นทุนสินค้าที่จะถูกลง

จากความร่วมมือในการบริหารงาน ทั้งจากไมเดีย กรุ๊ป และบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ตั้งเป้าจะเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศท็อป 3 ในประเทศไทย ภายใน 5 ปี โดยตั้งเป้าต้องมีมาร์เก็ตแชร์อย่างน้อย 13% ในปี 2565

แอร์ ไมเดีย Midea

กลยุทธ์การตลาดในปี 2562 เน้นเรื่องผลิตภัณฑ์และการทำการตลาด  ตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 4.5% ปี 2563 เน้นการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีครอบคลุมมากขึ้น ตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 7%   ปี 2564 มุ่งสร้างการรับรู้ และความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ ตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 9%  และปี 2565 มุ่งจัดหาผลิตภัณฑ์ที่แอดวานซ์และทันสมัย  บริหารช่องทางการจัดจำหน่าย รวมไปถึงการทำกิจกรรมการตลาด การส่งเสริมการขาย และการสร้างแบรนด์   ตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 13%

ทั้งนี้ ได้วางโรดแมพเพื่อให้เดินไปถึงเป้าที่ตั้งไว้ 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การอัพเกรดผลิตภัณฑ์ ไมเดียคาดว่าตลาดเครื่องปรับอากาศในปีหน้าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคต่อเครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์  มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ โดยได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้งบนผนังรุ่นใหม่จำนวน 3 ซีรีส์ และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แบบฝังฝ้าและติดเพดาน อีก 2 ซีรีส์ รวม 5 ซีรีส์ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภค

ส่วนแนวทางที่ 2 คือการลงทุนด้านการตลาด ปีหน้าตั้งเป้าใช้งบกว่า 12% ของรายได้ในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ โดยเน้นที่จุดแสดงสินค้าที่ด้านหน้าและภายในร้าน กิจกรรมส่งเสริมการขาย การสร้างแบรนด์ผ่านสื่อ การฝึกอบรมพนักงานขายและช่างเทคนิค รวมถึงแพลตฟอร์มการให้บริการซึ่งใช้ศูนย์บริการเดียวกับโตชิบา

Avatar photo