ลอดช่อง-น้ำกะทิ ขนมไทยโบราณที่หายาก ควรค่าต่อการอนุรักษ์ อยู่คู่วัฒนธรรมการกินของไทยให้ยาวนาน
หนาวปีนี้ที่สุดแสนจะร้อน มีลมหนาวโชยมาหลอกให้ดีใจแว้บเดียว อากาศร้อนกลับมาเยือนเหมือนเดิม เพื่อคลายร้อนวันนี้ “มาดามบางกอก” ขอแนะนำขนมไทยโบราณ ที่ควรค่าต่อการรับประทานเพื่อคลายร้อน เพิ่มความเย็นชื่นใจกันหน่อยดีกว่า
ลอดช่อง-น้ำกะทิ เป็นขนมไทยแท้โบราณดั้งเดิม หลายคนยังพากันสับสนคิดว่ามันคือขนม ที่มาจากเกาะสิงคโปร์นู้น คนละชนิดกันกับ “ลอดช่องสิงคโปร์” แต่ไม่ว่าจะในงานพิธีต่างๆ เช่น งานแต่ง, งานบวช, งานขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้กระทั่งงานสวดศพ ลอดช่อง มักได้รับความนิยมถูกจัดให้เป็นเมนูสำรับหวานอยู่เสมอมา
ลอดช่องมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีการค้นพบการจารึกที่เกี่ยวข้องกับ“ลอดช่อง” แต่ไม่ระบุว่าอยู่ในสมัยใด คือ ขนมไทยที่นิยมรับประทาน มี 4 ชนิด ได้แก่
- ไข่กบ คือ เมล็ดแมงลัก
- นกปล่อย คือ ลอดช่อง
- บัวลอย คือ ข้าวตอก
- อ้ายตื้อ คือ ข้าวเหนียว
มีความเชื่อว่าศิลาจารึกดังกล่าวน่าจะอยู่ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในช่วงปี พ.ศ. 2215-2220 ขณะนั้น แผ่นไทยดินมีความร่มเย็นเป็นสุข มิได้มีข้าศึกมารุกราน มีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะหลังจากฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ฝ่ายหญิงหรือแม่บ้านต้องคอยเตรียมขนม 4 อย่าง ไว้เป็นของหวานเสมอ หรือที่เรียกในสมัยนั้นว่า ประเพณี 4 ถ้วย
“ลอดช่อง” หรือ “นกปล่อย” เป็นขนมไทยโบราณที่ทำจากแป้ง ด้วยการบีบให้น้ำแป้งลอดช่องวงกลมตกลงไปในน้ำร้อนจนได้ก้อนแป้งสุกที่มีลักษณะเป็นเส้นสั้นๆ ยาว 2-2.5 นิ้ว ให้เนื้อเหนียวนุ่ม นิยมทำทั้งสีขาว สีธรรมชาติจากแป้ง และสีเขียวจากน้ำใบเตย รับประทานคู่กับน้ำกะทิหวานมันเข้มข้น ที่เคี่ยวจนหอมจากหัวกะทิ และน้ำตาลมะพร้าว
การจะทำลอดช่อง-น้ำกะทิโบราณ รับประทานเองคงไม่ใช่เรื่องง่าย อาจมีความยุ่งยากซับซ้อนหลายขั้นตอน ที่ต้องหาซื้อวัตถุดิบ ทำความเข้าใจกับสูตร และวิธีการทำ ส่วนการหาซื้อลอดช่องคงไม่ยาก
แต่จะหาซื้อเจ้าอร่อยนั้นสิ “มาดามบางกอก” ขอบอกเลยว่ายากมากๆ มาดามเดินมาหลายตลาดแล้ว ทั้งตลาดดังและไม่ดัง รวมทั้งซุเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ปรากฏว่าไม่ผ่านซักร้าน
“มาดามบางกอก” มีความทรงจำในวัยเด็ก สมัยอยู่ต่างจังหวัด เคยรับประทานลอดช่อง-น้ำกะทิ ที่อร่อยมากๆ เส้นแสนจะเหนียวนุ่ม หอมใบเตยเข้มข้น และน้ำกะทิ เหนียวข้น หวานมัน หอมละมุนจากกลิ่นกะทิ และน้ำตาลมะพร้าว ขอ บอกเลยว่าเป็น benchmark ที่สูงมากที่จะหาเจ้าไหนมาเทียบ ใช้เวลาตามหามาลอดช่องแบบนี้มาอย่างยาวนานมาก หลังจากอพยพถิ่นฐานมาอยู่เมืองบางกอก หาชิมไปเรื่อยก็ไม่เจอคู่เทียบซะที
วันหนึ่งไปเดินตลาดน้ำดอนหวายตอนสมัยที่คนเขาฮิตกันใหม่ๆ ก็ไปเจอ “ลอดช่องวัดเจษฯ” สิ้นค้า OTOP ของชาวสมุทรสาคร ที่มีเส้นที่เหนียวนุ่มและน้ำกะทิที่เข้มข้นหอมหวานต้นแบบฉบับของ “ลอดช่องวัดเจษฯ” จากภูมิปัญญาชาวบ้านทั่วไปตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานด้วยความอร่อยแบบต้นฉบับดั้งเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ที่ทำขายยาวนานมาถึง 40 ปี เลยคิดว่าเจอลอดช่องเจ้าอร่อยแล้ว ตอบโจทย์สนองนีดได้เป็นอย่างดี ข้อเสียคือนึกอยากรับประทานเมื่อไร ไม่ใช่จะหาซื้อได้ง่ายๆ หน้าร้านเจ้าของจริงๆก็อยู่ไกล ส่วนร้านที่รับมาขายก็ไม่แน่นอน มาบ้าง ไม่มาบ้าง ความอร่อยที่ไม่มาทันทีที่นึกถีง
เจอแล้วจ้า..คู่เทียบวัดเจษฯ
มีหนึ่งก็ต้องมีสอง 4 ปีที่ผ่านมา“มาดามบางกอก” ได้ย้ายบ้านมาอยู่ย่านกรุงเทพกรีฑา เลยบังเอิญได้รู้จัก “ลอดช่องคุณวรรณ” จากการไปทานร้านอาหารในย่านนี้ที่เสิร์ฟ “ลอดช่องคุณวรรณ” บนเมนูขนมหวาน หลังจากลองชิมคำแรก บอกตัวเองเลยว่า “ลอดช่องวัดเจษฯ”เจอคู่เทียบแล้วซะแล้ว ไปรับประทานหลายครั้งเพื่อดูความคงเส้นคงวาของรสชาติ บอกเลยว่าเสมอต้นเสมอปลายมาก จนต้องตามหาเลยว่า “คุณวรรณ” นี่คือใคร ถึงทำลอดช่องได้อร่อยขนาดนี้ ขนาดสั่งไปให้เพื่อนๆที่ทำงานโรงแรมชิม ทุกคนยังพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “อร่อยมาก”
เลยได้มีโอกาสไปตามหา “ลอดช่องคุณวรรณ” แบบจริงจัง ปรากฏว่าอยู่ข้างบ้าน “มาดามบางกอก” นี่เอง เลยได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์พูดคุยคุณกิ๊ฟ เจ้าของ”ลอดช่องคุณวรรณ” เล่าให้ฟังว่า “ลอดช่องคุณวรรณ” เกิดจากการที่คุณกิ๊ฟ ชอบรับประทานลอดช่องมากๆ วันรวมญาติคุณป้าทำมาให้รับประทาน แล้วรู้สึกได้ว่ามันอร่อยมากสามารถเอามาทำขายได้เลย
ตั้งแต่วันนั้นมาก็พัฒนาสูตรจนสามารถทำมาขาย ส่วนชื่อ “ลอดช่องคุณวรรณ” เกิดจากชื่อคุณแม่ และ นามสกุลของคุณพ่อ มีคำว่า “วรรณ” เหมือนกัน เลยตั้งชื่อว่า “ลอดช่องคุณวรรณ”ลอดช่องเปิดกิจการมา 5 ปี แล้ว และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร โรงแรม และลูกค้าทั่วไป
ไม่แปลกใจที่ “ลอดช่องคุณวรรณ” มีลูกค้ามากมาย เพราะตัวลอดช่องเหนียว นุ่ม หอมกลิ่นใบเตยธรรมชาติ และ น้ำกะทิ ที่หอมหวานอร่อย รสละมุนมากที่จะทำให้ลูกค้ารับประทานแล้วติดใจ จนลูกค้าขาจรต้องมาเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าขาประจำกัน สิ่งที่สำคัญ กรรมวิธีการผลิตจะไม่มีสารกันบูดเป็นส่วนผสมเลย และลอดช่องสามารถเก็บไว้ในตู้เย็น 2-3 วัน โดยที่เส้นจะยังไม่คืนตัว ส่วนน้ำกะทิจะเก็บไว้ได้นานกว่าโดยยังคงรสชาติเหมือนเดิม ราคา “ลอดช่องคุณวรรณ” ชุดเล็ก (ขนาดถ้วยเล็ก) อยู่ที่ ชุดละ 25 บาท ส่วนชุดใหญ่ (ขนาด 500 กรัม รวมน้ำกะทิ) ชุดละ 85 บาท แบ่งได้ 6-8 ถ้วยเล็ก นอกจากนี้ “ลอดช่องคุณวรรณ” ยังมีเมนูขนมหวานอื่นๆ เช่น เฉาก๊วย ลูกตาลลอยแก้ว สละลอยแก้ว เป็นต้น
ถ้าสนใจจะอุดหนุน “ลอดช่องคุณวรรณ” โทรไปสั่งกับ “คุณกิ๊ฟ” เจ้าของเลยได้ที่ 083-9994771 หรือ add line ได้ที่ LineID Giftsusu กันเลยนะเจ้าคะ มีบริการส่งถึงบ้านด้วยค่ะ เหมาะสำหรับเป็นขนมหวานงานบุญเป็นอย่างมาก อยากให้ขนมไทยโบราณที่แสนอร่อยแบบนี้ได้รับการสนับสนุน ถ้าไม่อร่อยจริงๆ มาดามบางกอกไม่เขียนรีวิวแนะนำแน่นอน
