“สศอ.” เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. ขยายตัว 4.08% ส่วน 10 เดือนโต 3.04% คาดปี 62 จะขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้
นายอดิทัต วะสีนนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ( MPI) เดือนตุลาคม 2561 ว่า ดัชนี MPI ขยายตัว 4.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนส่งผลให้ 10 เดือนแรกขยายตัว 3.04% อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนตุลาคม 2561 อยู่ที่ 67.75% อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ บุหรี่ น้ำตาลทราย น้ำมันปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน และคาดว่าตลอดปีนี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและจีดีพีภาคอุตสาหกรรมจะโตเท่ากันที่ 2.5%
ส่วนแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมสำคัญปี 2562 ว่า คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะโตในช่วง 2.0-3.0% จากปัจจัยสนับสนุนทั้งความชัดเจนการเลือกตั้ง แรงขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐจากความคืบหน้าของโครงการลงทุนสำคัญและการดำเนินงานภายใต้แผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ส่วนปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก ทั้งความไม่แน่นอนมาตรการการค้าของสหรัฐ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนของราคาน้ำมัน และความไม่แน่นอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญ
สำหรับอุตสาหกรรมที่จะขยายตัวปีหน้า เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีนี้ เนื่องจากความต้องการส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นและตามความต้องการของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมรถยนต์ คาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 2.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 4.76% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัวจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนที่จะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากเกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากเสถียรภาพทางการเมือง ประกอบกับการลงทุนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และการส่งออก มีแนวโน้มขยายตัวตามอุปสงค์โลก อย่างไรก็ตาม ยังต้องคำนึงถึงผลของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ด้านอุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.5% จากปัจจัยบวกอย่างเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวระดับใกล้เคียงปีก่อน ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าด้วยทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐปี 2562 ประกอบกับแนวโน้มราคาส่งออกสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าว น้ำตาลทราย แป้งมันสำปะหลัง และสับปะรดกระป๋อง รวมทั้งการขยายตัวต่อเนื่องของสินค้าสำคัญ เช่น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไก่แปรรูป และทูน่ากระป๋อง นอกจากนี้ คาดว่าสินค้าสำคัญอีกรายการที่จะกลับมาขยายตัว คือ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง
