ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีดาราจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ผันตัวมาสร้างช่องอยู่บนยูทูบ เช่นเดียวกับ “กาย – ฮารุ” สองสามีภรรยานักแสดงที่หันมาสร้างช่อง Guy Haru Family อย่างจริงจังเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ช่อง Guy Haru Family มีผู้ติดตามแล้วกว่า 1.73 แสนคน และกำลังเติบโตผ่าน 2 รายการที่พวกเขาผลิตขึ้น นั่นคือ กุมาร Travel (รายการด้านการท่องเที่ยวโดยสมาชิกในครอบครัว) และอร่อยเด็ดเข็ดด๋อย (รายการแนะนำอาหาร) ที่เกิดจากความชื่นชอบและความสนใจส่วนตัว โดย กาย – รัชชานนท์ เผยว่า “จริง ๆ มีคนแนะนำมาคือพี่เปิ้ล-นาคร กับแม่จูน เขาก็ทำช่องยูทูบอยู่ เราก็เลยลองทำบ้าง ค่อย ๆ ทำมาเรื่อย ๆ ประมาณหกเดือนแล้ว”
ด้านฮารุ เสริมว่า “เราโตมากับวงการบันเทิงที่มีข้อจำกัดเยอะ ทำอันนั้นได้อันนี้ไม่ได้ พอมาเจอยูทูบเลยรู้สึกเป็นแพลตฟอร์มที่เจ๋งมาก เพราะเราได้แสดงตัวตนอย่างที่เราอยากเป็น ไม่ต้องมีใครมาบอกว่าเราต้องเป็นอะไร ส่วนในฐานะของคนดู เราก็รู้สึกว่ามันทำให้คนหลุดจากข้อบังคับว่าเราต้องดูอะไรในเวลานี้ มันมีอิสระ มันมีสิทธิเลือกที่จะเสพสิ่งที่เราต้องการได้ และคอนเทนต์ก็มาจากหลากหลายมุมมอง”
สำหรับตัวตนของช่อง Guy Haru Family ทั้งสองเล่าว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของครอบครัวจริง ๆ แต่จุดที่แตกต่างอาจเป็นเรื่องที่ทั้งสองคนตกลงกันไว้แต่ต้นว่า จะไม่เปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนของลูก
“เราคุยกับพี่กายไว้ว่า ตอนทำรายการ เราจะไม่เปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนของลูกเรา เวลาถ่ายทำรายการ ถ้ามีสไลเดอร์แล้วเราถามว่าลูกอยากเล่นสไลเดอร์ไหม จริง ๆ เราก็อยากให้ลูกเล่นแหล่ะ เพราะเราจะได้ภาพลูกเล่นสไลเดอร์ แต่ถ้าลูกตอบกลับมาว่าไม่เล่น ไม่เล่นก็คือไม่เล่น เราไม่บังคับเขา ไม่ปั้น เราจะให้ลูกใช้ชีวิตตามปกติ เราก็ใช้ชีวิตตามปกติ แค่มันมีกล้องมาบันทึกภาพต่าง ๆ เท่านั้นเอง”
“สิ่งที่เราทำในรายการคือ เราบอกว่าเราจะไปที่ไหน จะมีกิจกรรมอะไรบ้าง แต่เมื่อไปถึงสถานที่ต่าง ๆ มันจะเกิดอะไรขึ้น ก็ให้มันเกิดไป มันจะไม่เหมือนรายการทีวีที่เขาจะคิดมาแล้วว่าจะเกิดอะไรต่อไป แต่ของเรา มีแค่ภาพรวมว่า เราจะไปเที่ยวทะเลกัน แล้วเราจะไปกินข้าว มีแค่นั้นจริง ๆ แล้วระหว่างนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้น เราไม่ได้กำหนด สมมติหิวก็จอดแวะกินข้างทาง ไม่ก็ซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างกิน อะไรแบบนี้ พูดง่าย ๆ เหมือนเที่ยวปกติ แค่เราถ่ายคลิปเพิ่ม”
ปัจจุบัน ทีมงานเบื้องหน้ามีทั้งสิ้น 5 คน ก็คือครอบครัวและน้องแอดมินอีก 1 ชีวิตที่เดินทางไปด้วยและคอยช่วยงานต่าง ๆ ส่วนการตัดต่อนั้น ทางช่องใช้วิธีส่งให้ห้องตัดที่สนิทกันทำ รวมถึงมีการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเพื่อให้ภาพที่่ถ่ายออกมามีคุณภาพดีขึ้น ส่วนหนทางต่อไปในฐานะครีเอเตอร์ กาย และฮารุเผยว่า อยากเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ให้มากขึ้นจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญของยูทูบ
“เรามีประสบการณ์แค่เบื้องหน้ากองถ่ายเท่านั้น แต่แบ็กออฟฟิศ – ตัดต่อ เราไม่รู้เรื่องเลย ก็อยากมาเจอคนอื่น ๆ มาเรียนรู้จากครู จากผู้มีประสบการณ์ของยูทูบ ทุกวันนี้ทำได้แบบเบสิค แต่เราอยากเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้มันน่าสนใจขึ้น ทำอย่างไรให้มันพรีเซนต์สิ่งที่ต้องการได้ดีขึ้น เหมือนเราไปดูหนังมา เรารู้ว่ามันมีช็อตที่จะขยี้บทให้มันเข้าถึงใจคนดู เราอยากเรียนรู้เพื่อให้ทำได้แบบนี้บ้าง สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจุดเล็ก ๆ แต่เอฟเฟ็กต์เยอะ เพราะมันสามารถอธิบายความเป็นเราได้ดีขึ้น”
ทั้งคู่ยังได้ฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า การทำรายการบนโซเชียลมีเดียไม่มีถูกหรือผิด ไม่มีทฤษฎีไหนที่จะบอกได้ชัด ๆ ว่าต้องทำรายการอย่างไรจึงจะปัง ทั้งหมด อยู่ที่จริตของคนดูกับคนทำว่าคลิกกันหรือไม่ ซึ่งข้อดีของโซเชียลมีเดียในมุมของทั้งสองก็คือ การที่พวกเขาได้เป็นตัวของตัวเอง และก็ฝากคำเตือนมาด้วยว่า นั่นก็อาจข้อเสียของโซเชียลมีเดียด้วยก็เป็นได้
