สร้างสีสันกันแต่เช้า สำหรับธนาคารกรุงไทยที่ดึงพนักงานจำนวนมากใส่ชุดสีฟ้ารับการเปิดตัวแอพพลิเคชัน “กรุงไทย NEXT” ภายใต้งบลงทุน 10,000 ล้านบาท หวังก้าวสู่การเป็น Invisible Banking ที่ครอบคลุมการให้บริการธุรกรรมทางการเงินมากที่สุดในไทยและมียอดผู้ใช้งาน 10 ล้านคนภายในปี 2562
โดยภายในงาน นอกเหนือจากการเปิดตัว “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ในฐานะพรีเซนเตอร์แล้ว กรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ยังออกมาบอกว่า ต้องการเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 จึงนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้แอพพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ตอบโจทย์ความต้องการระดับมหภาคได้อย่างแท้จริง
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทยเผยว่า จากที่ผู้บริโภคเคยรู้สึกว่าธนาคารกรุงไทยปรับตัวช้า แต่ในช่วง 2 – 3 ปีมานี้ เรามีการลงทุนด้านนวัตกรรม ซึ่งจนถึงตอนนี้ เชื่อว่าเราไม่แพ้คู่แข่งค่ายอื่น เพราะแอพพลิเคชันของเราทำได้หลายอย่างมาก และจะเป็นพลังสำคัญในการยกระดับประเทศไทยไทยสู่สังคมดิจิทัลได้อย่างแน่นอน
เปิด 5 ยุทธศาสตร์ Invisible Banking
โพสิชั่นของธนาคารกรุงไทยหลังการเปิดตัว กรุงไทย NEXT คือการก้าวไปสู่ Invisible Banking ซึ่งเน้นไปที่ 5 Ecosystems ได้แก่
- กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ (Government)
- กลุ่มการชำระเงิน (Payment)
- กลุ่มด้านสุขภาพ (Healthcare)
- กลุ่มการศึกษา (Education)
- กลุ่มผู้ให้บริการขนส่งมวลชน (Mass Transit)
โดยภายในแอพพลิเคชัน ทางธนาคารกรุงไทยระบุว่า สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากรวมทั้งภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจเข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น จ่ายค่าปรับจราจร, ชำระหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา, จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ ได้ด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลเชิงลึกที่ธนาคารกรุงไทยพบก็คือ คนไทยแม้จะมีการเปิดใช้งาน Mobile Banking มากขึ้นเป็น 37.9 ล้านบัญชี (ข้อมูลเมื่อเดือนมิถุนายน 2561) จาก 31.6 ล้านบัญชีในปี 2560 แต่ก็ยังมีคนไทยอีกมากที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยเฉพาะคนไทยในต่างจังหวัด เนื่องจากมองว่าใช้งานยาก ไม่เข้าใจการทำงาน สมัครไม่เป็น
ดังนั้น นอกจากการเปิดตัวแอพพลิเคชันใหม่แล้ว ทางธนาคารกรุงไทยจึงได้จัดเตรียม Nextpert ประมาณ 1,500 คน ไว้รองรับด้วย ในฐานะผู้ช่วยสอนคนไทยในการใช้แอพ กรุงไทย NEXT นั่นเอง
สำหรับเทคโนโลยีเบื้องหลังแอพ กรุงไทย NEXT นี้ มีทั้งเอไอ และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เพื่อให้แอพพลิเคชันสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบเฉพาะบุคคล รวมถึงขยายความสามารถของระบบให้รองรับการทำธุรกรรมได้มากถึง 100,000 รายการต่อวินาทีด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แอพอื่นอาจยังไม่มีคือ Krungthai travel card ที่เปิดให้ลูกค้าแลกเงินตราต่างประเทศผ่านแอพ เก็บไว้ได้ก่อนการเดินทางมากถึง 10 สกุลเงินในอัตราพิเศษ ที่ทางผู้บริหารเชื่อว่าจะลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมระหว่างเดินทางไปต่างประเทศลงได้
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าแอพทั้งหมดที่ธนาคารมีจะทำให้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคนภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่มีผู้ใช้งานบนแอพเก่าอยู่ราว 5 ล้านบัญชี โดยทางธนาคารจะใช้วิธีค่อย ๆ โอนย้ายผู้ใช้งานจากแอพเก่ามายังแอพใหม่แทน เนื่องจากพบว่าผู้ใช้งานส่วนหนึ่งเคยชินไปแล้วกับอินเทอร์เฟสของแอพเดิม
