COLUMNISTS

ฝันร้ายธุรกิจการบิน..มีวัคซีนก็ช่วยไม่ได้ อาจต้องใช้เวลาฟื้นถึงปี 2023

Avatar photo
10300

หลังจากข่าวการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างความหวังให้ธุรกิจการบิน และภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เริ่มเห็นความหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม แต่การพัฒนาวัคซีน ที่ใช้เวลาค่อนข้างสั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ยังไม่มีประสิทธิภาพเหมือนวัคซีนในอดีต ที่ใช้เวลายาวนานกว่าในการพัฒนา

จากเริ่มต้นของการแจกจ่ายวัคซีน ด้วยความหวังจะให้นักเดินทาง หยุดการเป็นตัวแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19  แต่หลังจากเริ่มมีการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ที่หลายบริษัทพัฒนามานับปี ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่า ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนแล้ว จะไม่แพร่เชื้อ

จากประสิทธิภาพวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ตอนแรกนี้เอง ทำให้บรรดานักวิเคราะห์อุตสาหกรรมการบิน ประเมินว่าสายการบินต่าง ๆ จะเริ่มฟื้นตัวในปี 2022 ไม่ใช่ในปี 2021 อย่างที่ประเมินกัน ซึ่งหากยืดเยื้อออกไป จะมีการปลดคนออกจากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอีกมาก

องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาให้ความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนว่า สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจในปัจจุบันคือ วัคซีนมีประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยไม่ให้เสียชีวิต แต่ยังไม่มีประสิทธิภาพในการหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19

แม้ขณะนี้จะเริ่มมีวัคซีนในหลายประเทศ แต่ตัวเลขผู้โดยสารยังลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ที่เริ่มการระบาดในจีนและประเทศในแถบเอเชีย และขณะนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มว่า จะมีประเทศไหนยอมให้มีการเดินทางอย่างเสรีเหมือนกันหน้านั้น ทุกประเทศล้วนแต่มีมาตรการป้องกันการเข้า-ออกของผู้ที่จะเดินทางอย่างเข้มงวด

จากการประเมินล่าสุดของผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ประเมินว่า อาจจะเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจการบินจริง ๆ ก็น่าจะเป็นปี 2022 และหากจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ก็อาจจะกินเวลานานถึงปี 2023-2024 ซึ่งสอดคล้องกับสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ที่คาดการณ์จากการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และปัญหาการแจกจ่ายให้ทั่วถึง รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีน คาดว่าในช่วงต้นปีนี้ธุรกิจการบินจะฟื้นตัวเพียง 13% และคาดว่าจะฟื้นตัว 50% ในปลายปี

ในช่วงต้นปีนี้ ทุกอย่างยังดูเหมือนมืดมนสำหรับธุรกิจการบิน จากตัวเลขล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ก.พ. จำนวนเที่ยวบินทั่วโลกในตลาดหลัก ๆ ที่มีการเดินทางคึกคักยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเกิดการแพร่ระบาดอย่างมาก โดยอังกฤษหนักสุด จำนวนเที่ยวบินลดลงถึง 89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

แม้ว่าหลายประเทศ พยายามหามาตรการป้องกันและคัดกรองผู้โดยสาร โดยหวังว่าหากธุรกิจการบินฟื้นตัวและทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติได้ ก็จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะย่ำแย่ได้

แต่มาตรการที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ผลมากนัก ไม่ว่าจะหาวิธีการคัดกรองอย่างไร บรรดานักเดินทางก็ยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมบริการที่เติบโตมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ที่มีโรงแรมนับแสนแห่งและคนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้หลายสิบล้านคน

หากประเมินจากสถานการณ์ข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิวัคซีนโควิด-19 และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้คน คาดว่ากว่าธุรกิจการบินและธุรกิจบริการจากภาคท่องเที่ยว จะต้องเผชิญกับปัญหาต่อไป ซึ่งอาจต้องมีการปลดพนักงานในสายการบินอีกครั้ง รวมถึงภาคบริการอื่น ดังจะเห็นได้จากยังมีการปลดพนักงานในสายการบินเป็นระยะ ๆ

แม้จะมีวัคซีนโควิด-19 แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าวัคซีนที่นำมาใช้ในปัจจุบันจะเป็น “แสงที่ปลายอุโมงค์” ของอุตสาหกรรมการบินและท่องเที่ยว จนกว่าจะมีการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

อ่านข่าวเพิ่มเติม: