Politics

‘สถาบันปัญญาประชารัฐ’ อีกกลยุทธ์พรรคพลังประชารัฐ

สถาบัน 3

พรรคพลังประชารัฐ ไอเดียกระฉูด เปิด “สถาบันปัญญาประชารัฐ” หวังสร้างผู้นำศตวรรษที่ 21 เปิดกว้างคนใน-นอกพรรคเข้ามาเรียน เทียบเชิญคนนอกพรรคมาร่วมงานต่อ  

สร้างกระแสอีกแล้วเมื่อพรรคพลังประชารัฐแถลง”สถาบันปัญญาประชารัฐ” เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เวลา 17.00 น. ที่ตึก C asean รัชดาภิเษก โดยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าที่รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐ

นายสุวิทย์ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายชัดเจนที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าด้วย  “3 3 3” ภารกิจ ประกอบด้วย

ส่วนแรก คือ “3 หลักการหัวใจสำคัญพลังประชารัฐ”

  1. เป็นการเมืองที่ตอบโจทย์ประชาชน
  2. เป็นการเมืองจากฐานราก
  3. เป็นการเมืองแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

ส่วนที่สอง คือ  “3 ฟันเฟือง”สำคัญในการขับเคลื่อนพลังประชารัฐ

  1. มีกลไกทางปัญญา
  2. สู่นโยบาย
  3. นำไปสู่พลังประชารัฐ

ส่วนที่สาม คือ “3 ภารกิจ”

  1. มีสถาบันปัญญาประชารัฐ
  2. สร้างผู้นำที่สามารถเปลี่ยนแปลง (Game Changer)ให้เกิดขึ้นในทุกมิติ ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง
  3. ร่วมกำหนดนโยบายภาคประชาชน

“4 ปีที่ผ่านมา เรามีความขัดแย้ง วันนี้เศรษฐกิจฟื้นตัว ความเชื่อมั่นต่างประเทศกลับมาแล้วในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จากนี้ไปเราจะมาร่วมกันคิดว่าจะทำประเทศไทยให้ทะยานไปข้างหน้าอย่างไร”

179928

สำหรับส่วนหลักสูตร “ปัญญาประชารัฐ” กำหนดเป็น 8 ด้าน  ขณะนี้มีการกำหนดรายละเอียดไว้แล้ว และทาบทามวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งภายในพรรค และภายนอกพรรค  ส่วนจะมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ต้องขออุบไว้ก่อน แต่รับรองมีร้อง “ว๊าว” หลังกกต.รับรองพรรคพลังประชารัฐ

อย่างไรก็ตาม ความมุ่งหวังของเรา คือ ต้องการให้เป็นสถาบันที่ตอบโจทย์ประเทศ เป็นเวทีเปิดให้คนรุ่นใหม่ในทางการเมือง ทั้งสมาชิก และคนภายนอกเข้ามาเรียนรู้  มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง แต่มาจากทุกภาคส่วน เพื่อมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำภาคประชาสังคม นักธุรกิจชั้นนำ นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เกี่ยวข้องในมุมต่างๆ  แน่นอนว่าส่วนหนึ่งของความคิดของบุคคลเหล่านี้จะถูกกำหนดเป็นนโยบายพรรค

“5ปีจากนี้ไปการเมืองแบบใหม่จะต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ พร้อมที่จะทะยานไปข้างหน้า เป็นสถาบันของศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง ซึ่งจะต้องนำพลวัตโลกมาใช้ในประเทศไทย รู้บทเรียนในอดีต เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ โดยต้อง รู้ลึก รอบด้าน เท่าทันเพื่อกำหนดอนาคตประเทศ”

นายสุวิทย์ กล่าวว่า สถาบันแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริง คือต้องการสร้างเครือข่าย จากทุกภาคส่วน และจะรับเอานโยบายจากภาคส่วนต่างๆ ขึ้นมา และสร้างผู้นำใหม่ๆ รวมถึงผลิตนวัตกรรมทางนโยบาย

ทางด้านนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายที่สำคัญคือทุกคนช่วยกันคิดร่วมกันทำคนละไม้คนละมือ ไม่เป็นผู้นั่งแต่บนอัฒจรรย์เป็นเพียงผู้ดูเท่านั้น หมดยุคที่จะคิดคนเดียวแล้ว และต้องทำจากล่างขึ้นบน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมาจากหลายกลุ่ม อาทิ เกษตรกร นักธุรกิจ นักวิชาการ จึงต้องมาคิดร่วมกัน ซึ่งตนมั่นใจว่าประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน

ในการเปิดสถาบันครั้งนี้เป็นอีกเวทีที่พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัวคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมทำงานกับพรรค อาทิ ภญ.โสภา พิมพ์สิริพาณิชย์ นักเขียนและวิทยากรชื่อดัง ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันบัณฑิตพัฒบริหารศาสตร์ (นิด้า) รวมถึงคนรุ่นใหม่ในแวดวงโฆษณา เป็นต้น  โดยคนรุ่นใหม่เหล่านี้ต่างระบุว่าต้องการเข้ามาทำการเมืองนานแล้ว แต่กลัวการเมือง เมื่อพรรคพลังประชารัฐเปิดโอกาส และมีแนวคิดใหม่ๆจึงเข้าร่วมงาน

นายสุวิทย์ ระบุว่า จะมีคนรุ่นใหม่หลายคนที่พรรคจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งให้พรรคได้ส.ส.มากกว่า 100 คนอย่างแน่นอน

สถาบัน1

Avatar photo