ETDA เจาะลึกข้อมูลผู้บริหารระดับสูง พบบางส่วนยังกลัวเทคโนโลยี และไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม ชี้กระทบต่อการตัดสินใจในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ในองค์กร และเพื่อแก้ Pain Point นี้ ทาง ‘ETDA’ จึงได้เปิดสถาบันเศรษฐกิจอนาคตและธรรมาภิบาลอินเทอร์เน็ต พร้อมอบรมหลักสูตร “Future Economy & Internet Governance Excutive Program : FEGO” หวังปั้นผู้บริการระดับสูงในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างถูกต้อง
สำหรับสถาบันเศรษฐกิจอนาคตและธรรมาภิบาลอินเทอร์เน็ต และหลักสูตร “Future Economy & Internet Governance Excutive Program : FEGO” นั้น มีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นประธานที่ปรึกษา โดยมีเป้าหมายให้เกิดเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน รวมถึงการนำองค์ความรู้ที่ได้นั้นไปสู่ข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศต่อไป
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA เผยว่า หลักสูตรดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 โมดูล โมดูลแรก (Getting to be Digital Transformer) เป็นการรู้จักเทคโนโลยีเบื้องต้น เนื่องจาก ที่ผ่านมา มีผู้บริหารระดับสูงของไทยจำนวนหนึ่งยังขาดความเข้าใจในเทคโนโลยี ทำให้เกิดความกลัว และไม่กล้าใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังไม่เข้าใจในประเด็นของ Storytelling ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญบนโซเชียลมีเดียในการสร้างการติดตาม
“โมดูลแรกจะสอนเรื่องพวกนี้ ให้รู้จักเทคโนโลยี โดยใช้ภาษาง่าย ๆ เพื่อจะได้ดูแลตัวเองได้ จากนั้นโมดูลที่สอง (Bird’s eye View over disruptive Technology) จะลงลึกใน Deep Tech เช่น บล็อกเชน การทำ ICO สกุลเงินดิจิทัล บิ๊กดาต้า ฯลฯ มากขึ้น โดยใช้ภาษาง่าย ๆ สอนว่าเทคโนโลยีนี้ทำอะไรได้บ้าง และสอนจากผู้มีประสบการณ์จริง เคยใช้จริง ว่าประสบความสำเร็จมาอย่างไร จากนั้นจะมีเวทีเสวนาให้ถกเถียงกันด้วย”
“สุดท้ายในโมดูลที่ 3 (Look Beyond Disruptive Technology and Deep Dive into Policy and Legal Issue, and Internet Governance) เป็นมิติในเชิงนโยบายว่าประเทศต่าง ๆ อย่าง จีน สหรัฐอเมริกา ยุโรป มีปัญหาอย่างไร ประยุกต์ใช้อย่างไร โดยเราจะให้ข้อมูลในเชิงข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดการดีเบตกัน”
สำหรับการอบรมในหลักสูตร FEGO รุ่นแรกนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และได้เริ่มไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา (ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 40 ชั่วโมง) สอนโดยกลุ่ม Young Blood หรือคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จกับการเป็นสตาร์ทอัพวัยระหว่าง 30 – 40 ปี ส่วนการคัดเลือกผู้เรียนนั้น ทางคณะกรรมการของ FEGO เป็นผู้เชิญผู้เรียนด้วยตัวเอง และมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมราว 60 คนทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงอดีตนักการเมืองด้วย เช่น นายศุภชัย พาณิชภักดิ์, นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นต้น
“ต้องบอกว่าเป็นบรรยากาศการเรียนที่น่ารัก เพราะต่างฝ่ายต่างรับฟังกัน อีกทั้งเราได้รับประโยชน์มากจากผู้เรียนรุ่นแรก เพราะคนเหล่านี้ถือเป็นระดับ Change Agent ของประเทศ ถ้าเขามีความเข้าใจ จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อีกมาก ส่วนทางผู้สอนซึ่งเป็นกลุ่ม Young Blood ก็ได้ข้อคิดหลาย ๆ ข้อกลับไปด้วยเช่นกัน”
แต่เมื่อถามว่าเทคโนโลยีอะไรบ้างที่ผู้บริหารระดับสูงขาดความเข้าใจ นางสุรางคณาตอบว่า แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บล็อกเชน, IoT, บิ๊กดาต้า ฯลฯ และถ้าเรียนในคอร์สนี้แล้วไม่เข้าใจ ไม่สามารถตอบคำถามได้ ก็ต้องลงเรียนซ่อมด้วย
อย่างไรก็ดี เนื้อหาการอบรมยังไม่กล่าวไปถึงควอนตัมคอมพิวติ้ง เทคโนโลยีการประมวลผลที่ถูกคาดหมายว่าจะมีบทบาทอย่างสูงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
สำหรับการอบรมรุ่นต่อไป นางสุรางคณา เผยว่า จะเน้นไปยังกลุ่มที่คาดว่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาททางการเมือง กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภค และผู้ควบคุมนโยบายด้านภาษี เนื่องจากคนเหล่านี้จะต้องดูแลด้านนโยบายของประเทศในยุคต่อไป จึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงรู้เท่าทันการบุกตลาดของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างชาติด้วย
