“เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล” สื่อดังระดับโลกของสหรัฐอเมริกาเผย สมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมี ได้รับข้อเสนอเป็นเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 49.5 ล้านบาท) จาก ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ค่ายหนังชื่อดังเพื่อเป็นค่าลิขสิทธิ์นำเรื่องราวชีวิตระหว่างติดถ้ำหลวงไปเผยแพร่ในรูปแบบภาพยนตร์ ซึ่งหากนำมาจัดสรรปันส่วนแล้ว เด็กๆ 12 คน รวมถึงโค้ช จะได้เงินตกคนละ 115,000 ดอลลาร์ (ราว 3.79 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ทีมหมูป่า อยู่ระหว่างเดินสายให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ต่างประเทศ จากเรื่องราวอันน่าทึ่งที่พวกเขาเอาชีวิตรอดจากการติดถ้ำในวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา และเรื่องราวของพวกเขากำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ให้คนทั่วโลกรับรู้
“เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล” ได้เปิดเผยข่าวเอ็กซ์คลูซีฟว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เอเจนซี่ และตัวแทนของค่ายหนัง ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อนัดคุยกับครอบครัวน้องๆ ทีมหมูป่า รวมถึง “โค้ชเอก” เอกพล จันทะวงษ์ ผู้ดูแลทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ที่สถานที่แห่งหนึ่ง พร้อมกับได้ทำการยื่นข้อเสนอค่าลิขสิทธิ์นำเรื่องราวชีวิตไปทำเป็นภาพยนตร์ด้วย
การสร้างภาพยนตร์ครั้งนี้ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก ได้ลิขสิทธิ์นำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่ โดยมี ไมเคิล เดอ ลูกา กับ เดนา บรูเน็ตติ สองทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สร้างภาพยนตร์ชั้นดีมาแล้วมากมายเช่น The Social Network หรือ Captian Phillips
รายงานระบุว่า ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ได้มอบเงินลิขสิทธิ์ทำภาพยนตร์นี้ให้แก่ทีมนักฟุตบอลหมูป่ารวม 1.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากนำมาแบ่งสัดส่วนให้นักฟุตบอลทั้ง 12 คนและโค้ชเอก จะได้คนละ 115,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ เงินที่สมาชิกทีมหมูป่าจะได้รับ สามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่านี้อีกจากส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์หนังสือที่เตรียมวางแผง รวมถึงส่วนแบ่งจากรายได้จากการจำหน่ายตั๋วชมภาพยนตร์ด้วย ซึ่ง “เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล” รายงานว่า ทันทีที่ผู้ปกครองของเด็กๆ รับทราบถึงข้อเสนอ ถึงกับอุทานแบบไม่เชื่อหูว่า “จริงเหรอ ตลกแล้ว ล้อกันเล่นหรือเปล่า”
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ทางเอเจนซี่ที่ทำการเจรจาเคสนี้ จะได้ส่วนแบ่งเป็นจำนวน 10% ของรายได้ทั้งหมดของทีมหมูป่า
