“ผบ.ตร.” เผยพบแรงงานต่างด้าวพยายามหนีจากที่กักตัว “สมุทรสาคร” ลั่นหากพบเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว ขู่ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด กำชับเบิกจ่าย “เบี้ยเลี้ยงโควิด” ต้องโปร่งใส ทุกคนต้องได้รับภายในสิ้นปีนี้
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อมอบนโยบายและรับรายงานตัวตำรวจ รอง ผบก.- ผกก. ที่ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งใหม่ วาระประจำปี 2563 พร้อมด้วย พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. , รอง ผบช.น.และตำรวจที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ได้เสนอแนวคิดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ให้จัดผู้ประสานงานที่สามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับชาวเมียนมา ที่ถูกกักตัวไว้บริเวณตลาดกลางกุ้ง และหอพักของแรงงานต่างด้าว หลังพบว่าบางส่วนมีความพยายามออกมาจากพื้นที่กักกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงการควบคุมโรค และลดความคับข้องใจ ที่อาจนำไปสู่การก่อความวุ่นวายในอนาคต
ส่วนบริเวณรอบนอกพื้นที่กักตัวมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว พร้อมปรับแก้ได้ตามสถานการณ์ ขณะเดียวกันให้ตำรวจร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข จัดชุดสอบสวนโรค ตรวจสอบการเดินทางของผู้ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยง เพื่อควบคุมโรค
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการคุมเข้มชายแดน ได้สั่งจัดชุดปฏิบัติการพิเศษจากส่วนกลาง ลงพื้นที่ชายแดน เพื่อตรวจสอบข้อมูลขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังมีข้อมูลกล่าวอ้างว่า อาจมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รู้เห็นกับเจ้าหน้าที่นำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามา
ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากพบเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าหน่วยใดเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันได้กำชับตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้มงวดในการลาดตระเวนชายแดนอย่างต่อเนื่อง
“ได้สั่งการให้จัดชุดพิเศษลงพื้นที่จังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก และจังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน 10 จังหวัด เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย โดยตำรวจทุกนายต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย หากพบจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด“ ผบ.ตร.กล่าว
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ยังแสดงความห่วงใยตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง โดยสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาข้อมูล เพื่อทำประกันสุขภาพให้กับตำรวจที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นำร่องพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เบื้องต้นให้หน่วยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจลงพื้นที่ตรวจโรคตำรวจ ประมาณ 200 คนแล้ว โดยยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่พบมีอาการป่วย 1 นาย จึงรับมาเฝ้าระวังอาการที่โรงพยาบาลตำรวจ
นอกจากนี้ มอบหมายให้โรงพัก หรือหน่วยงานต่างๆของตำรวจ จัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมทำประกันสุขภาพตำรวจผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง โดยจะนำร่องตำรวจกว่า 900 นายที่ปฏิบัติงานในจังหวัดสมุทรสาคร เน้นย้ำว่าการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 นั้นต้องโปร่งใส และทุกคนจะต้องได้รับภายในสิ้นปีนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปลัดสธ.แจงโยก ‘สสจ.สมุทรสาคร’ ไปพังงา ไม่ใช่การลงโทษ
- อย่าตกใจ! ผู้ว่าฯสมุทรสาคร แจง กำแพงพัง ภาพเก่า ยันไม่มีแรงงานต่างด้าวหนีได้
- มหาดไทยตื่น! แจงปมจ่ายค่าหัวแรงงานผิดกม.เข้าไทย
