เปิดเส้นทางในวงการนางงามของ “พรฟ้า ปุณิกา” และเรื่องร้ายที่สุดในชีวิต จนเกือบซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตาย
พร้อมเผยเป้าหมายชีวิตหลังจบการประกวด อยากผลิตนางงามคุณภาพสู่เวทีโลก!
กลับมายืนท่ามกลางสปอร์ตไลท์อีกครั้งอย่างสง่างาม สำหรับ พรฟ้า ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ ที่คว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss Universe Thailand ไปครองพร้อมกับประกาศปิดตำนานเส้นทางนางงาม พอลลี่ หรือ พรฟ้า ปุณิกา ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง พรฟ้า ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เปิดเส้นทางในวงการนางงามของ พรฟ้า ปุณิกา และเรื่องร้ายที่สุดในชีวิต จนเกือบซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตาย พร้อมเผยเป้าหมายชีวิตหลังจบการประกวด อยากผลิตนางงามคุณภาพสู่เวทีโลก!
พรฟ้า ปุณิกา : ประกวดตั้งแต่ปี 2013 นั่นคือปีแรกของการเข้าสู่การประกวดคนจำชื่อได้ในชื่อ พอลลี่ ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ แล้วตั้งแต่นั้นเขาก็ตามเรามาเรื่อยๆเราก็เป็นตัวแทนสาวงามประเทศไทยประกวดมิสเอิร์ธ มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ และล่าสุดคือ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะหลายคนเชียร์ให้กับมาแล้วก็ได้กลับมาในปีนี้ค่ะ
ถาม ความตั้งใจในการที่จะเป็นนางงามของเรามีมาตั้งแต่เด็กเลยไหม
พรฟ้า ปุณิกา : ไม่ค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่า พรฟ้า เกิดในปี 1992 คือ ปีที่พี่ลูกเกด กับ พี่อร อนงค์ ได้ตำแหน่งแล้วคุณแม่คือติดตามนางงามมาบ้าง แต่คุณแม่ไม่ได้ยัดเยียดให้ พรฟ้า ประกวดหรือว่าอะไรนะคะ แต่ที่เส้นทางเริ่มต้นเพราะเราอยากหาเงินเรียนเลยเริ่มเข้าสู่วงการประกวด เวทีแรกคือ 14 ปีค่ะ เราเริ่มจากการประกวดนางนพมาศตามต่างจังหวัดก่อนแล้วเราคิดว่าการประกวดมันได้เงินแล้วคือ ตอนที่เราอายุ 14 เราได้เงิน 8,000 บาทมันเยอะสำหรับเรามากเรามีเงินจ่ายค่าเทอมแล้ว แต่เราก็ทำมาเรื่อยๆแต่ในต่างจังหวัด ยังไม่ได้เข้ามาในกรุงเทพฯ เราเข้ามากรุงเทพฯตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เข้ามาก็ประกวด MUT เลยตอนนั้นเรายังไก่กาอยู่เลยไปกับพี่สาวสองคน ลุยกันเอง เพราะเราเคยเรียนลีลาศมาก่อนเลยมีทักษะการแต่งหน้าอยู่บ้าง และการเต้นลีลาศช่วยให้แก่นกลางลำตัวของเราแข็งแรง
ถาม 8 ปี อยู่ในวงการนางงามมาเรียกว่าเป็นตำนานเลยเพราะว่าคว้ารางวัลมาทุกเวทีที่ไปเลย จนเป็นที่มาของ ตำนานนางลอง เพราะว่าอะไร
พรฟ้า ปุณิกา : จะไม่ยอมพูดว่ารองอันดับสองเด็ดขาดเพราะว่าไม่ว่าเราจะไปเวทีไหน เราเลยสร้างความเป็นตำนานตรงนี้เป็นคาแรคเตอร์ว่าคนนี้ไงได้
ถาม เพราะมีแฟนคลับเยอะมากเลยมีการจัดมิตติ้งแฟนคลับนางงามขึ้น ซึ่งในมิตติ้งมีอะไรบ้าง
พรฟ้า ปุณิกา : คือ โจทย์ของแฟนมิตติ้งเป็นอะไรก็ได้แต่ต้องทำให้แฟนคลับมีความสุข ทุกอย่างที่แฟนๆอยากเห็น สเต็ปลีลาศแบบเต็มๆการโชว์ทุกอย่าง ความสามารถทั้งหมดที่พรฟ้า จะทำได้อยู่ในนี้หมดเลยบอกเลยว่าการจัดมิตติ้งเครียดกว่าประกวดเพราะว่าตอนประกวดเรายังมีเวลาเตรียมตัวทำใจก่อนประกวด 1 เดือน แต่แฟนมิตติ้ง 2 วัน แทบไม่ได้พักเลยแล้วเราก็เครียดตรงที่กดดันตัวเองอยากให้ทุกคนมีความสุข สนุกแต่เราลืมนึกไปว่าที่เขามาเพราะเขาอยากมาเจอเรานะ เราเลยปลดล็อคที่เรากดดันตัวเองออกไป
ถาม ความแตกต่างมีอะไรบ้างจากที่เราประกวดตั้งแต่ 2013 เริ่อยมาจนถึง 2020 ต่างกันมากไหม
พรฟ้า ปุณิกา : performance จะต้องดีแต่ไม่ต้องถึงระดับขั้นเทพ แต่มันต้องดีระดับหนึ่งที่ทำให้ทุกคนจับตามองหรือมีสปอร์ตไลท์ให้กับตัวเอง อย่างที่สองคือคสามมั่นใจที่ต้องเพิ่มขึ้นเพราะว่า อินเนอร์ มีความส่วนสำคัญในการทำงาน ถ้าเราไม่มีอินเนอร์นางงามคนนั้นจะดูดรอปทันที เพราะพลังของแววตา ใบหน้า คือส่วนสำคัญ มันจะมีแฮชแท็กหนึ่งคือ พรฟ้าฆ่าไม่ตาย เราแค่เชื่อมั่นในตัวเอง รู้จักตัวเอง รู้ว่าข้อแข็งจุดแข็งของเราคืออะไร บางทีประสบการณ์จะเป็นตัวหล่อหลอมตรงนี้ให้แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันต้องมีการประยุกต์ให้เข้ากับยุคปัจจุบันด้วย เช่นการตอบคำถามเราต้องตอบให้ตรงประเด็นและหาเหตุผลให้กับคำถาม ยากตรงที่คิดให้ไว้ ตอบให้เร็ว แล้วคือเราอยู่ตรงนั้นเราตื่นเต้นด้วย
ถาม แต่ว่าเส้นทางของเธอคนนี้เก่งมาก ทำได้ทุกอย่าง มั่นใจโดดเด่นแต่ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆย้อนกลับไปในช่วงนั้นเหมือนกับเป็นข่าวใหญ่ข่าวดังของเราตอนนั้นเกือบทำให้เราซึมเศร้าจนคิดจะฆ่าตัวตายเลยเหรอ
พรฟ้า ปุณิกา : ใช่ค่ะ เกือบเป็นโรคซึมเศร้าคือตอนนั้นต้องบอกก่อนเลยว่ามันมีวิกฤตเรื่องข่าวที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดแต่ง่าพอพิสูจน์หลักฐานอะไรออกไปแล้วเราไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่สังคมไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับเรามันเลยทำให้เราไปอ่านคอมเม้นท์พอเราอ่านคอมเม้นท์แล้วคนที่เข้าไม่รู้จักตัวตนของเราที่แท้จริงทำให้เราดูถูกตัวเอง ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมมีโอกาสแล้วทำให้ตัวเองเสียโอกาสไปทำให้เราตื่นมาร้องไห้ตื่นมาเสียใจแล้วก็ปาดน้ำตาใหม่ ยิ้มใหม่แล้วก็ปลอบใจตัวเองอยู่แบบนี้จนมันเกือบเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆวังวนชีวิตเราอยู่แบบนี้ประมาณ 5 ปี
ถาม หลักๆเพราะโซเชียลเลยไหม (เวลาที่เขาพูดตอนนี้เขายังน้ำตาคลอเลย)
พรฟ้า ปุณิกา : (น้ำตาคลอ) จริงๆมันมีช่วงให้ตัดใจไปแล้วแต่มันเหมือนมีปมในใจที่เกิดขึ้นมาแล้วพอเราพูดถึงเรื่องนี้ทีไรจะมีน้ำตาทันทีเลย
ถาม ซึ่งเมื่อเราได้ตำแหน่งแล้วเราก้มกราบพื้นแล้วพูดว่า คุณแม่วันนี้พรฟ้าล้างมลทินเรียบร้อยแล้ว
พรฟ้า ปุณิกา : (น้ำตาคลอ)พูดแล้วจะร้องไห้ เพราะครอบครัวเขารับรู้เรื่องนี้มาตลอดแล้วเขาก็ให้กำลังใจเราตลอด เราก็พยายามที่จะเข้มแข็งมันก็เลยกลายเป็นคนสองบุคลิกด้านหนึ่งเราก็เสียใจ แต่เราต้องเข้มแข็งเพราะเรายังต้องทำงานต่อแต่ว่าสุดท้ายแล้วเรายอมที่จะแลกความจริงไม่ว่าสังคมจะยอมรับหรือไม่ ตอนนั้นคือเรามีความมั่นใจเราพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงเลยลงประกวดในครั้งนี้
ถาม 5 ปีที่เราต่อสู้มาเราเดินก้าวออกมาจากจุดจุดนั้นได้ยังไง
พรฟ้า ปุณิกา : ความเข้มแข็งของครอบครัวเลย จริงๆคุณแม่ไม่อยากให้เข้าประกวดเลยครั้งล่าสุดนี้เพราะเขากลัวเราเจ็บกลัวข่าวผุดขึ้นมาอีกแล้วเราจะรับไม่ไหว แต่ว่าตอนนั้นเราคิดว่าไม่มีอะไรที่เราจะรับไม่ไหวแล้ว 5 ปีที่แล้วเราเจ็บมายังไงถ้าปีนี้เราไม่ออกมาเราก็จะเจ็บอยู่เหมือนเดิม เราก็เลยเลือกที่จะฝืนบอกว่าแม่ว่าหนูขอนะ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ขัดขว้างแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนท่านก็เฉยไปแต่กับพี่สาวคือบอกเราว่าถ้าเราคิดจะทำต้องทำให้ได้เท่านั้นเลย พอครอบครัวเราเข้มแข็งจิตใจเราก็เข้มแข็งตั้งแต่นั้นเราก็สู้แบบหลังชนฝาหมาจนตรอกเลย ซึ่งแฟนคลับของเราก็ให้กำลังใจเราเยอะมากค่ะ เพราะแฟนคลับบอกเราว่าอยากเห็น พรฟ้า ในแบบนี้ แบบนี้แต่เราเบรกความฝันของเขาที่อยากเห็นเราด้วยสิ่งที่ดีกว่าด้วยการเซอร์ไพร์สด้วยการที่เขาเปิดของขวัญทุกวัน ซึ่งไอเดียนี้เป็นของเราเองค่ะ
พรฟ้า ปุณิกา : อันนี้เป็นความลับจากห้องดำที่เขาถามเราว่าทำไมพรฟ้าอยากมาประกวดแล้วคิดว่าตัวเองมีข้อดีอะไร เราเลยบอกไปว่าสิ่งที่เป็นข้อดีของ พรฟ้า คือ สิ่งที่ทำให้ทุกคนเซอร์ไพร์สทุกวัน ทุกคนจะไม่สามารถคาดเดาในตัวพรฟ้า ได้เลยมันคือความยากของนางงามที่เกดมาจากยุคเก่าแล้วมาอยู่ในปัจจุบัน มันเลยเกิดการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนางงามไทย มันเลยเกิดการมิกซ์แอนด์แมทช์เกิดขึ้นรู้สึกว่าออกไปทุกครั้งต้องมีความว้าว
ถาม จนขนาดที่พี่ลูกเกด เมทินี ชวนไปเป็นลูกทีมด้วย
พรฟ้า ปุณิกา : แม่เขามาทาบทามอยู่ค่ะ เราก็บอกแม่ไปว่าถ้าเป็นโอกาสของชีวิตเราก็อยากไปร่วมงานด้วยเหมือนกันเพราะว่าถ้าเราได้ร่วมงานกับคนเก่งๆฝีมือของเราก็จะพัฒนาขึ้นและเราก็จะได้เรียนรู้อะไรภายใต้สิ่งที่เราสอนคนอื่นเหมือนกัน
ถาม แล้วเป้าหมายต่อไปของ พรฟ้า ที่เราตั้งไว้คืออะไร
พรฟ้า ปุณิกา : การสร้างมาตรฐานนางงามไทย พรฟ้า อยากให้นางงามไทยที่ส่งออกทุกคนหรือแม้กระทั่งอยู่แค่ประเทศของเรามันเป็นที่หื้อฮาไปสู่ระดับโลกเลย เราก็เลยอยากสร้างความเข้มแข็งให้นางงามไทย เข้มแข็งด้วยสายเลือด เข้มแข็งที่จะคว้ามงกุฎ
ถาม เสียดายไหมที่แขวนส้นสูง
พรฟ้า ปุณิกา : ไม่เสียดายค่ะ เพราะเราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการนี้มานานแล้วที่เราจะใส่ส้นสูงในการประกวด แต่เราก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการประกวดไม่หายหน้าไปแน่นอนแต่จะพัฒนาวงการนางงามไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สวยตาแตก! อั้ม พัชราภา ออร่าเจ้าสาวพุ่ง แฟนๆ เชียร์สนั่น อยากเห็นแต่งในชีวิตจริง
- ไฟลุกอีกแล้ว! ใหม่ ดาวิกา ปล่อยรูปแซ่บ นุ่งบิกินี่ตัวจิ๋วโชว์เอวบาง ดาเมจเกินต้าน
- กอล์ฟ พิชญะ ฟาดกลับเดือด! หลังคนแซะคบผู้หญิงคนไหนก็อยากแต่งไปหมด