Lifestyle

เตือนภัย ‘หัวใจกำเริบเฉียบพลัน’ ทำ 3 นักวิ่งดับ เกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา

หมอเตือนภัย โรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน หลังทำนักวิ่งเสียชีวิต 3 คนรวด ชี้เกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา ต้องส่งให้ถึงมือหมอเร็วที่สุด แนะช่องทางด่วนโทร. 1669

จากเหตุการณ์เศร้าสลด นักวิ่งเสียชีวิตถึง 3 ราย จากการร่วมวิ่งแข่งขัน 2 รายการ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือ นายแพทยฺ์อัษฎางค์ รวยอาจิน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ที่ร่วมวิ่งในกิจกรรมวิ่งถิ่นวีรชน มินิฮาร์ฟมาราธอน ครั้งที่ 4 ที่อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ส่วนอีก 2 ราย เป็นการเข้าร่วมงาน “อาสา…พาวิ่ง 2020” ที่จ.ระยอง

running 1944798 1280

การเสียชีวิตของนักวิ่งทั้ง 3 ราย เกิดจากโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน (Heart attack) โดย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน (Heart attack) เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ ซึ่งพบได้บ่อยตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป

สาเหตุของโรคดังกล่าว อาจเกิดได้จากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ที่มีสาเหตุจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันชนิดเฉียบพลัน ส่งผลให้คนไข้มีอาการเจ็บหน้าอก บริเวณซีกซ้าย อาจจะมีร้าวไปที่แขนซ้ายหรือร้าวไปที่กราม ร่วมกับมีอาการเหงื่อออก มือเท้าเย็น วิงเวียน จะเป็นลม หมดแรง คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่อิ่ม

สำหรับผู้ป่วยที่เสียชีวิต ก่อนถึงโรงพยาบาล สาเหตุส่วนใหญ่ เป็นผลมาจากหัวใจห้องล่าง เต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรง

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน คือ การสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วนลงพุง การบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์ แต่อย่างไรก็ดี อาการหัวใจกำเริบเฉียบพลันอาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาได้

หัวใจล้มเหลว

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานที่ และทุกเวลา เช่น ขณะออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่ง นอนหลับพักผ่อน ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการแต่ยังรู้สึกตัวดี ต้องรีบมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

ส่วนในกรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า จะต้องมีความรู้เรื่องการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) และรู้จักการใช้เครื่องกระตุกหัวใจ (AED) ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข มีระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ที่เรียกว่าระบบช่องทางด่วน (fast track) โดยติดต่อหมายเลข 1669 เพื่อนำส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเบื้องต้น และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า

ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จากหลอดเลือดหัวใจอุดตัน จะต้องได้รับการรักษาทันที ด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือการสวนหัวใจ เพื่อการทำบอลลูน ซึ่งมีระยะเวลาที่เป็นนาทีทอง (golden period) 120 นาที ในการเปิดหลอดเลือดเลือดหัวใจ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต

ภายหลังการรักษา ผู้ป่วยต้องรับประทานยาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และควบคุมปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ด้วยการมาพบแพทย์ตามนัด ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำของแพทย์

หากพบว่า เกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บแน่นหน้าอก เวลาออกแรง เหนื่อยง่าย หอบเหนื่อยนอนราบไม่ได้ ขาบวมกดบุ๋ม ให้รีบมาพบแพทย์ทันที

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo