Entertainment

มาร์ช เผยคำสั่งเสีย จากที่ไม่อยากฟังเสียงบ่น วาระสุดท้ายแค่แม่เรียกชื่อก็ดีใจแล้ว

นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวนักแสดงหนุ่มชื่อดัง มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล กับการสูญเสีย คุณแม่สุนันทา ลัฐิกางพงศ์ วัย 65 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคมะเร็งตับ หลังต่อสู้มานานกว่า 6 ปี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ล่าสุด (27 พ.ย.) ทางครอบครัวได้จัดพิธีทางศาสนาที่วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ณ ศาลา 26 หลังสิ้นพิธีรดน้ำศพ มาร์ช จุฑาวุฒิ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่เรื่องราวต่างๆ ให้ฟังว่า

2 มาร์ช 2

“ขอบคุณมากๆ ครับ ขอบคุณทุกกำลังใจ มาม๊าและพวกผมก็ต่อสู้มานานสำหรับโรคมะเร็งที่มาม๊าเป็น ประมาณเกือบ 6 ปี จริงๆ ก็มาได้ไกลมากๆ สำหรับโรคนี้ที่คุณหมอบอกสำหรับเคสนี้ เขากำลังใจดี และต่อสู้มาจนถึงวันนี้ เรามองว่ามันเป็นปาฏิหารย์ จากตอนเด็กๆ ที่ผมรู้ ตอนนั้นเหมือนโลกสลาย และตั้งหลักไม่ได้ ค่อยๆ เรียนรู้ รู้จักโรคนี้มา อยู่กับมัน บอกให้คุณแม่สู้ จนมาถึงวันนี้ได้”

“ถ้าใครได้อยู่ใกล้ตัวและอยู่ใกล้คุณแม่ จะแทบไม่รู้เลยว่ามาม๊าเขาป่วย ยกเว้นตอนช่วงที่เขาคีโมเฉยๆ ผมร่วง ก่อนหน้านั้นเขาไม่มีอาการเจ็บ อาการปวดอะไร เขาอยู่กับโรคมะเร็งได้ด้วยความสุข ด้วยความที่เขาเป็นคนอารมณ์ดีด้วยและเขาก็สู้ เป็นคนใจสู้เพื่อลูกๆ อยากอยู่กับลูกๆ”

“ก่อนหน้านี้มาม๊าเริ่มมีอาการปวดหลังนิดหน่อย พอช่วงสัปดาห์สุดท้าย ผมได้มีโอกาสกินข้าวกับมาม๊า แล้วรู้สึกว่าตอนเขาพูด เขาเหนื่อยๆ ดวงตามีความเหลืองนิดหนึ่ง ก็เลยพาไปโรงพยาบาล ไปเช็กหน่อยดีกว่า ผลมันก็ไม่ดีครับจนมาถึงวันนี้”

7 มาร์ช จุฑาวุฒิ 2

“ถามว่าคุณแม่ได้สั่งเสียอะไรกับเรามั้ย มีครับ มีได้คุยกันแล้ว คุยแบบจริงๆ เราเลยโล่ง อะไรที่มาม้าเป็นห่วงเรา มาม้าก็บอกกับเราตรงๆ และก็รวมไปถึงก่อนที่มาม้าเป็นโรคด้วยนะครับ ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อมาม๊ามาอยู่แล้ว ผมก็รู้สึกพยายามเต็มที่ของเราแล้วในตลอดเวลาที่ผ่านมา ถามว่าอยากมีเวลามากกว่านี้ไหม เราอยากมี แต่ว่ามันไม่มีใครฝืนได้ครับ”

“ก็สัญญาครับ แล้วเขาฝากฝังไว้กับคนรอบๆ ให้ช่วยดูมากกว่า แต่เราก็รับปากเขาไว้ แต่ว่า ณ ตอนนั้นเราไม่อยากให้มันเศร้าอะครับ ตอนมาม๊าพูดเราก็ทำขำๆ ใส่เขาไป”

“คุณพ่อก็เศร้าครับ มันเหมือนคนอยู่ด้วยกันมานาน ตั้งแต่จีบกันใหม่ๆ อยู่มาจนถึงตอนนี้ มันมากกว่าครึ่งชีวิตอีก ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมดูแลคุณพ่อต่อเอง ก็คอยเป็นกำลังใจให้คุณพ่อครับ”

“ผมได้พูดกับมาม๊าไปหมดแล้วครับ แต่ว่าจริงๆ ผมขอพูดถึงคุณพ่อคุณแม่ของทุกๆ คนแล้วกัน ผมมองว่าสำหรับโรคของมาม๊า สำหรับผมมันเป็นอะไรที่ช้าไป ตอนนั้นเรายังเด็ก แล้วมาม๊าเขาก็ตรวจเจอช้าไปนิดหนึ่ง ผมรู้สึกว่าการตรวจสุขภาพ การดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าลูกหลานรู้จักพาไป บางท่านอาจจะไม่อยากไปโรงพยาบาล แต่เราไม่ควรละเลยครับ เราพาพวกท่านไปตรวจ บอกว่าจองคอร์สไว้แล้วอะไรก็ได้ ผมว่าการที่เรารู้ตั้งแต่วันนี้มันดีกว่า บางทีเราอาจจะเอาชนะมันได้เร็วกว่าด้วย ก็เป็นห่วงเวลาเพื่อนๆ ผมมาเยี่ยม เพื่อนๆ พี่ชายมาเยี่ยมก็ตาม ผมพยายามบอกว่าให้พาพวกท่านไปตรวจนะ และก็ดูแลดีๆ แล้วแบบ… ใช้เวลาอยู่กับพวกท่านเยอะๆ มันเป็นสิ่งสำคัญมาก”

2 มาร์ช 3

“คือมาม๊าก็ชอบบ่นผม เราก็จะไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง แต่ ณ วันท้ายๆ แค่มาม๊าเรียกชื่อผม (เสียงสั่น) ผมก็ดีใจสุดๆ แล้ว นั่นแหละครับคือยังไงก็อยากให้ทุกคนใช้เวลากับพวกท่านเยอะๆ และดูแลพวกท่านดีๆ สุขภาพของพวกท่านถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งพออายุเยอะก็ยิ่งน่าเป็นห่วง”

“พิธีทางศาสนาจัดทั้งหมด 3 วันครับ วันอาทิตย์นี้ก็เผาเลย เป็นความตั้งใจของครอบครัวที่ตัดสินใจด้วยกันครับ”

“สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นครับ ยอมรับตรงๆ ว่าผมก็เสียหลัก เสียศูนย์ เพราะมาม๊าคือเหมือนเป็นแรงขับเคลื่อนในชีวิตผมตั้งแต่เด็กจนถึงวัยทำงาน มาม๊าดูแลผมมา อยู่ทุกช่วง ทุกก้าวความสำเร็จในชีวิต คือผมไม่มีทางมีวันนี้ได้เลยถ้าไม่มีมาม๊า ถ้าถามว่ามันขาดอะไรไปไหม มันขาดมากๆ อยู่แล้ว แต่ผมยังถือว่าโชคดีที่มีคนรอบตัวที่น่ารักและซัพพอร์ตผมมากๆ เขาให้ความรักมา เขาคอยประคองผมในวันที่ผมล้ม ต้องขอบคุณพวกเขาทุกคนที่ช่วยเหลือผมมาจนถึงวันนี้”

7 มาร์ช จุฑาวุฒิ 5

7 มาร์ช จุฑาวุฒิ 4

7 มาร์ช จุฑาวุฒิ 3

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo