นายฉัตรชัย ปานอยู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นไทยสมายล์ พบว่า ยังมีผู้โดยสารจำนวนมากที่ยังไม่ทราบถึงเรื่องการพูด “ระเบิด” เพราะไม่ว่าจะพูดคำนี้ที่จุดใด ทั้งเคาน์เตอร์เช็คอิน ขณะกำลังขึ้นเครื่อง หรือขณะอยู่บนเครื่องบิน ก็ถือว่าเข้าข่ายมีความผิดตามตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ ซึ่งผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งมีการกำหนดการกระทำต่างๆ ที่ถือเป็นความผิดในอากาศยาน และมีบทกำหนดโทษกำกับไว้อย่างชัดเจน โดยเนื้อหาในมาตรา 22 ระบุไว้ว่า ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือ น่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของสายการบินพบเห็น หรือได้ยินข้อความ ซึ่งอาจจะมีผลต่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่สายการบินมีหน้าที่ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีข้อยกเว้นซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏความปลอดภัย และ พรบ.ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยผู้โดยสารที่พูด “ระเบิด” จะต้องนำตัวส่งไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ รวมถึงนำกระเป๋าสัมภาระออกมาตรวจค้นอย่างละเอียด ซึ่งบางกรณีอาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าต่อเที่ยวบิน และส่งผลให้ผู้โดยสารท่านอื่นได้รับผลกระทบไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงฝากให้ผู้ที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน เผื่อเวลาการเดินทางมาถึงท่าอากาศยานล่วงหน้า 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออกสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ และ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออกสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ
