Digital Economy

โดนหนัก!! อียูจ่อปรับ ‘เฟซบุ๊ก’ 1.63 พันล้านดอลล์ เหตุถูกเจาะระบบครั้งใหญ่

gettyimages 959804662 wide f2a65f96a25703da2bc2a656ca383c37996d90b7 s1600 c85
ภาพ: AFP

จากกรณีที่เฟซบุ๊กได้ออกมายอมรับว่า โดนแฮ็กระบบจริง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเป็นไปได้ว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้อาจต้องจ่ายค่าปรับกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์ให้กับสหภาพยุโรป(อียู)แล้ว

คณะกรรมการปกป้องข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งควบคุมดูแลด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในอียู เรียกร้องให้เฟซบุ๊กออกมาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบทั้ง 50 ล้านบัญชี และอาจทำให้เฟซบุ๊กต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.63 พันล้านดอลลาร์

ทางคณะกรรมการระบุว่า การรั่วไหลข้อมูลในครั้งนี้มีผู้ได้รับผลกระทบหลายล้านคน แต่เฟซบุ๊กไม่สามารถชี้แจงให้เกิดความชัดเจนได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานด้วย

ขณะที่ตัวแทนจากเฟซบุ๊กระบุว่า ทางเฟซบุ๊กจะตอบคำถามที่ทางคณะกรรมการจากสหภาพยุโรปส่งมา

การถูกเจาะระบบครั้งนี้ของเฟซบุ๊กได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลกเป็นอย่างมาก และทำให้หลายคนย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่บริษัทวิเคราะห์ตลาด “เคมบริดจ์ อะนาไลติกา” นำข้อมูลของเฟซบุ๊กไปใช้ขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากในครั้งนั้นมีผู้ได้รับผลกระทบมากถึง 87 ล้านคน

อย่างไรก็ดี ความแตกต่างระหว่างสองกรณีคือ ในครั้งนี้ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงกุญแจดิจิทัลได้ และสามารถใช้กุญแจนี้ล็อกอินเข้าใช้งานเฟซบุ๊กได้ไม่ต่างจากเจ้าของบัญชี 

ไม่เพียงเท่านั้น สถานการณ์ยังร้ายแรงถึงระดับที่ว่า อาจกระทบต่อแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ใช้บัญชีเฟซบุ๊กในการล็อกอิน เช่น แอพหาคู่ ทินเดอร์ (Tinder), สปอติฟาย (Spotify) แอร์บีแอนด์บี (Airbnb) ฯลฯ ด้วย

วุฒิสมาชิก มาร์ค อาร์. วอร์เนอร์ ในฐานะประธานร่วมของวุฒิสมาชิกพรรคการเมืองด้านความปลอดภัยได้เรียกร้องให้มีการไต่สวนคดีทั้งหมด พร้อมกับกล่าวว่า รัฐสภาจะต้องก้าวเข้ามามีส่วนร่วม และปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้โซเชียลมีเดียแล้ว

ด้านมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊กระบุว่า แม้จะดีใจที่บริษัทพบช่องโหว่นี้ และแก้ไขได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงก็คือ เฟซบุ๊กยังต้องพัฒนาเครื่องมือต่าง ๆ ออกมามากขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อีก

ที่มา:  EconomicTimes

Avatar photo