Politics

ระวัง’เช็กอิน- เซลฟี่’ ในม็อบ หลักฐานมัดตัว จับแล้ว 10 ราย

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลัง และอุปกรณ์เข้าปิดพื้นที่ แยกราชประสงค์ เพื่อไม่ให้ มีการชุมนุมของ”กลุ่มคณะราษฎร63” วันนี้(16ต.ค.) ทำให้ กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศย้ายสถานที่ชุมนุมมาอยู่ที่บริเวณแยกปทุมวันแทน

ล่าสุดพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าประกาศที่ 4 เรื่องห้ามมิให้ชุมนุมมั่วสุม ขอย้ำว่าไม่ให้ชุมนุมมั่วสุม ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และห้ามกีดขวางจราจร ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร ที่นำเสนอข่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท

จากประกาศฉบับที่ 3 ได้มีประกาศเพิ่มเติม คือ ห้ามใช้เส้นทางคมนาคม ดังต่อไปนี้เว้นแต่ได้รับอนุญาต คือ 1 ถนนพญาไท ตั้งแต่ราชเทวีถึงสามย่าน 2 ถนนพระราม 1 จากแยกเฉลิมเผ่า-แยกเจริญผล และห้ามเข้าไปในสถานที่ดังต่อไปนี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 -02.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาต คือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม สนามกีฬาแห่งชาติ ราชเทวี ทางเชื่อมระหว่างตึก หรือ สกายวอล์ก ตั้งแต่บีทีเอสสยาม – สนามกีฬาแห่งชาติ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีสามย่าน

ปทุมวัน2

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. กล่าวว่าการใช้โซเชียลมีเดียยุยงปลุกปั่น ชวนเข้าชุมนุม ทำให้เกิดความไม่สงบ รวมทั้งการโพสต์บิดเบือนสร้างเฟกนิวส์ การเช็คอิน มีรูปตัวเองร่วมการชุมนุม อย่ามองว่าเป็นเรื่องโก๋เก๋ นั่นเป็นการรับสารภาพ โดยมีพยานหลักฐานเป็นรูปที่เข้าสู่สังคมออนไลน์ ถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท

หากการกระทำเข้าข่ายความผิดอื่นใด เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีความผิดตามเรื่องนั้นๆ โดยกระทรวงดิจิตอล มีทีมเฝ้ามอนิเตอร์ เบื้องต้นดำเนินคดีไปแล้ว 10 ราย แบ่งเป็นบัญชีเฟซบุ๊ก 5 ราย และ ทวิตเตอร์อีก 5 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight