กรุงเทพโพลล์ ระบุคนไทยอยากเห็นพรรคการเมืองใช้เฟซบุ๊ก/เฟซบุ๊ก ไลฟ์ เคลื่อนไหวทางการเมือง ชี้ “เน็ตไอดอล”มีผลรับรู้ข้อมูล รู้สึกถูกปิดกั้นหากห้ามใช้สื่อโซเชียลหาเสียง
“กรุงเทพโพลล์” โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สํารวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “การเลือกต้ังบนสมรภูมิโซเชียล” จํานวน 1,201 คน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่
68% อยากเห็นพรรรคการเมืองใช้โซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก/เฟซบุ๊ก ไลฟ์ ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง รองลงมาไลน์ 39.6% ยูทูบ 36.5% ทวิตเตอร์ 11.9% และอินสตาแกรม 11.5%
ด้านการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของพรรคการเมืองต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่ 51.4% เห็นว่าจะเกิดผลดีโดยในจํานวนนี้ให้เหตุผลว่า ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลพรรคการเมืองได้ง่ายขึ้น 54.8% รองลงมาคือ คนรุ่นใหม่ จะมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น 53.4% ขณะที่ 48.6% เห็นว่าจะเกิดผลเสีย โดยในจำนวนนี้ให้เหตุผลว่าข้อมูลที่ได้อาจไม่น่าเชื่อถือ มีการบิดเบือนข้อมูล 45.2% และจะมีการแสดงความเห็นใส่ร้ายโจมตีคู่แข่ง ทำให้เกิดความขัดแย้ง 33.5%
ส่วนความเห็นต่อการเสนอข้อมูลต่างๆ ทางการเมืองของ “เน็ตไอดอล” หรือผู้มีอิทธิพลทางความคิด จะมีผลต่อการเลือกต้ังที่จะถึงมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ 63% เห็นว่ามีผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ 37% เห็นว่ามีผลค่อนข้างน้อย ถึงน้อยที่สุด
หากมีการห้ามใช้โซเชียลมีเดียหาเสียงพบว่า 47.9% รู้สึกเหมือนถูกปิดก้ันข้อมูล รองลงมา 34.6% รู้สึกเหมือนประเทศยังไม่พัฒนาไม่มีอิสระ และ 34.3% รู้สึกว่าถ้าใช้โซเชียลหาสียงประเทศจะวุ่นวาย แตกแยก