Politics

‘บิ๊กตู่’ กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลเยาวชนที่มาชุมนุมด้วยความอะลุ่มอล่วย

“นายกรัฐมนตรี” ชี้ห่วงใยเด็กนักเรียนและนักศึกษาที่มาชุมนุมเช่นเดียวกับที่รักลูกของตนเอง ย้ำ! เจ้าหน้าที่ให้ดูแลด้วยความอะลุ่มอล่วย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาญัตติเปิดอภิปราย ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ย้ำห่วงใยเด็กนักเรียนและนักศึกษาที่มาชุมนุมเช่นเดียวกับที่รักลูกของตนเอง

เพียงแต่เกรงว่า จะเป็นการปลุกระดมคนที่ไม่เข้าใจและกลัวมีคนอยู่ข้างหลังโดยเฉพาะมือที่สามที่จะมาทำให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลายได้ ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ประยุทธ์1096311

ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวที่จะห้ามนักศึกษา แต่เป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายกรัฐมนตรี ย้ำให้กระทำด้วยความนุ่มนวลและอะลุ่มอล่วยที่สุด ดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด โดยเชื่อมั่นว่า ประชาชนเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้รับฟังข้อมูลทั้งสองด้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็พร้อมรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้เด็กนักเรียนและนักศึกษาดำเนินกิจกรรมอยู่ในกรอบและเป็นไปในแนวทางสันติวิธี

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า ในการทำงานของรัฐบาลยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ 66,533,533 คน ทุกมาตรการที่มีมุ่งสอดคล้องกับการดูแลคนไทยทั้งหมด ยอมรับว่า การจะทำให้ทุกคนมีความสุขพอใจนั้น ค่อนข้างจะทำได้ยาก แต่จะไม่เกินความพยายามของรัฐบาล เพราะพยายามทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

“ผมเคารพกระบวนการของรัฐสภามาโดยตลอด จะทำทุกอย่างให้เกิดความชอบธรรม โปร่งใส ป้องกันการทุจริตให้ได้มากที่สุด หลายปัญหาที่สมาชิกฯ จะอภิปรายฯ ในวันนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน เมื่อรัฐบาลเข้ามาทำหน้าที่ก็ต้องแก้ปัญหา โดยได้เตรียมการแก้ปัญหามาแล้วหลายปี ทั้งเรื่องกฎหมาย กระบวนการ กลไกต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้าที่รัฐบาลนี้จะเข้ามานั้นปัญหาหลายปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้ยืนยันว่าจะรับผิดชอบแก้ไขทุกปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลห่วงใยต่อสถานการณ์ภายในประเทศ ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ด้านเศรษฐกิจ และอื่น ๆ ถึงแม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อดูแลแก้ไขให้ทุกอย่างกลับฟื้นคืนสู่ปกติโดยเร็ว ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังข้อกฎหมาย ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด การกู้เงินจะทำต่อเมื่อมีความจำเป็นต้องกู้ หากไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่ต้องกู้ สำหรับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 รัฐบาลได้แก้ปัญหาได้เป็นที่น่าพอใจในระดับโลก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับเศรษฐกิจไทยกับต่างประเทศนั้น รองนายกรัฐมนตรีจะได้ชี้แจงต่อไปทั้งในส่วนอาเซียน ประชาคมโลก องค์กรต่าง ๆ ก็ได้จัดอันดับแล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลกำลังเริ่มดำเนินการปฏิรูปจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเลย รัฐบาลนี้ได้ตั้งคณะทำงานศึกษา เพื่อหาแนวทางปรับลดจำนวนข้าราชการลง ขณะเดียวกันก็ต้องมีหน่วยงานขึ้นใหม่เพื่อทดแทนโดยไม่เพิ่มอัตรากำลังมากนัก หลายอย่างได้มีการปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้งระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์และโทรศัพท์ที่ใช้สั่งการติดตามได้ ซึ่งกระบวนการปฏิรูปในระบบประชาธิปไตยมีความยุ่งยากพอสมควร ขอเพียงต่างคนต่างฟังกันบ้างก็จะนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิรูปทั้งทางการเมืองหรือทางประชาธิปไตย พร้อมย้ำว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีปัญหากับเด็ก ๆ มีแต่คนที่ทำให้เด็ก ๆ มีปัญหากับตน ซึ่งไม่ต้องการให้ลุกลามบานปลาย ประเทศไทยต้องมีความสงบให้มากที่สุดในช่วงเวลานี้ เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เศรษฐกิจกำลังมีปัญหา

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันได้ผ่านการตรวจสอบในฐานะ นายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกลไกต่าง ๆ ซึ่งพร้อมรับฟังคำชี้แจงและข้อทักท้วงของทุกฝ่ายเสมอ และยังฝากว่า ขอให้อย่ารังเกียจทหาร ขอให้ทหารได้มีความภาคภูมิใจในการทำงาน ทหารทำงานด้วยความเสียสละอดทน ขอให้อย่าแยกทหารออกจากประชาชน เพราะวันนี้ทหารทำหน้าที่หลายอย่างมากมายทั้งป้องกันประเทศ พัฒนาประเทศ ป้องกันภัยพิบัติ ป้องกันโควิด-19 ทหารคือลูกหลาน ฉะนั้น ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน อย่าสร้างความเกลียดชังกันต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo